
กรอบเวลาแผนภูมิที่ดีที่สุดสำหรับการซื้อขายคริปโต
เมื่อพูดถึงการเทรดคริปโต การเลือกกรอบเวลาที่เหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นเทรดเดอร์ระยะสั้นที่มองหากำไรอย่างรวดเร็ว หรือเป็นนักลงทุนระยะยาวที่เน้นการตามเทรนด์ ในบทความนี้ เราจะมาสำรวจวิธีเลือกกรอบเวลาที่ดีที่สุดในการเทรดคริปโต และพูดถึงกรอบเวลายอดนิยมที่นักเทรดใช้กัน
กรอบเวลา #1: ระยะสั้น (1 นาที ถึง 15 นาที)
กรอบเวลาระยะสั้นโดยทั่วไปหมายถึงช่วงเวลา 1 นาทีถึง 15 นาที เทรดเดอร์จะเน้นการจับการเคลื่อนไหวของราคาที่รวดเร็ว โดยใช้ความผันผวนเพื่อทำกำไรเป้าหมายหลักคือการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด เทรดเดอร์ระยะสั้นจะพึ่งพาตัวชี้วัดทางเทคนิคและข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์อย่างมากเพื่อใช้ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น กราฟ 1 นาทีและ 5 นาทีมักใช้สำหรับการ scalping ในขณะที่ day trader มักเลือกใช้กราฟ 15 นาทีเพื่อวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาในวันเดียวกัน
ข้อดี:
- ทำกำไรได้อย่างรวดเร็วจากการเคลื่อนไหวของราคาขนาดเล็ก
- มีโอกาสเทรดหลายครั้งต่อวัน
ข้อเสีย:
- ต้องจับตาตลาดตลอดเวลาและตัดสินใจเร็ว
- มีค่าธรรมเนียมสูงจากการเทรดบ่อยครั้ง
กรอบเวลา #2: ระยะกลาง (30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง)
กรอบเวลาระยะกลาง เช่น 30 นาทีและ 1 ชั่วโมง เป็นที่นิยมในหมู่ swing trader ซึ่งมุ่งทำกำไรจากการแกว่งของราคาในช่วงเวลาหลายชั่วโมง เทรดเดอร์ใช้กราฟเหล่านี้เพื่อหาจุดเข้าในช่วงการย่อตัวหรือการปรับฐาน และหาจุดออกเมื่อราคาขยับไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์
ข้อได้เปรียบของการเทรดระยะกลางคือมี "สัญญาณรบกวน" น้อยกว่ากราฟระยะสั้น ทำให้สามารถตัดสินใจได้แม่นยำขึ้นโดยไม่ถูกรบกวนจากการเปลี่ยนแปลงราคานาทีต่อนาที กราฟเหล่านี้ช่วยให้เห็นแนวโน้มและรูปแบบราคาที่น่าเชื่อถือมากขึ้น และแสดงภาพรวมของโมเมนตัมตลาดที่ชัดเจนขึ้น Swing trader สามารถทำกำไรได้จากการขี่คลื่นราคา โดยเข้าซื้อเมื่อเทรนด์เริ่มต้นและออกเมื่อเริ่มกลับตัว
ข้อดี:
- ความเข้มข้นน้อยกว่าการเทรดระยะสั้น
- มีเวลาเพียงพอในการวิเคราะห์และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด
ข้อเสีย:
- ต้องติดตามตลาดบ่อยขึ้น
- การถือออเดอร์ข้ามคืนอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด

กรอบเวลา #3: ระยะยาว (4 ชั่วโมง ถึง รายวัน)
กรอบเวลาระยะยาว เช่น กราฟ 4 ชั่วโมงและรายวัน มักใช้โดย position trader ที่เน้นภาพรวมใหญ่ กราฟเหล่านี้ช่วยลดความผันผวนที่เห็นได้ชัดในกรอบเวลาสั้น และเหมาะสำหรับการหาทิศทางแนวโน้มระยะยาว
ข้อได้เปรียบหลักของการใช้กรอบเวลายาวคือการหลีกเลี่ยงสัญญาณรบกวนและความผันผวนแบบสุ่มที่เห็นในกรอบเวลาสั้นๆ การโฟกัสไปที่เทรนด์ขนาดใหญ่ช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลมากขึ้นตามทิศทางโดยรวมของตลาด เทรดเดอร์ระยะยาวจะไม่กังวลกับการแกว่งของตลาดระยะสั้น เพราะเป้าหมายคือทำกำไรจากการเคลื่อนไหวใหญ่ทั้งขาขึ้นหรือขาลง
ข้อดี:
- ต้องเทรดน้อยครั้ง ลดค่าธรรมเนียม
- ใช้เวลาในการวิเคราะห์และเฝ้ากราฟน้อย
ข้อเสีย:
- ต้องใช้ความอดทนและยอมรับความผันผวนได้
- อาจขาดทุนหนักหากตลาดเคลื่อนไหวสวนทาง
ตลาดคริปโตเปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ปริมาณซื้อขายและความผันผวนจะแตกต่างกันไปตามเวลา ข้อมูลแสดงว่าช่วงที่มีการซื้อขายคริปโตคึกคักที่สุดคือ 10.00–11.00 น. ตามเวลา EST ซึ่งตรงกับช่วงบ่ายในยุโรปเมื่อเข้าสู่เวลาเปิดตลาดสหรัฐฯ คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการซื้อขายคริปโตได้ที่นี่
วิธีเลือกเวลาที่ดีที่สุดในการเทรดคริปโต?
เพื่อหาช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเทรดคริปโต คุณควรพิจารณาปัจจัยหลายประการที่สอดคล้องกับแนวทางการเทรดและสภาพตลาดปัจจุบัน:
- พิจารณากลยุทธ์การเทรดของคุณ — แต่ละแนวทางเหมาะกับช่วงเวลาที่ต่างกัน หากคุณชอบ day trading หรือ swing trading ควรใช้กรอบเวลาสั้น
- ติดตามความผันผวนของตลาด — ตลาดคริปโตมีความไม่แน่นอนสูง สร้างโอกาสให้เกิดการแกว่งของราคาที่มาก ความผันผวนสูงมักเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับเทรดเดอร์ระยะสั้นและระยะกลางที่หวังเก็งกำไร
- ตามข่าวสาร — ราคาคริปโตสามารถได้รับผลกระทบจากข่าวล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกฎระเบียบ เทคโนโลยี หรือกระแสของชุมชน ตัวอย่างเช่น Ripple ที่ยังคงมีคดีความส่งผลต่อราคามาก การติดตามพัฒนาการเหล่านี้ช่วยให้คุณมีความได้เปรียบ
การเลือกกรอบเวลาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเพิ่มกำไรและบริหารความเสี่ยง ไม่ว่าคุณจะเลือกกรอบเวลาใด สิ่งสำคัญคือการผสานการวิเคราะห์กราฟเข้ากับการจัดการความเสี่ยงและกลยุทธ์การเทรดที่ดี เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในตลาดคริปโต
คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์หรือไม่? กรอบเวลาไหนที่เหมาะกับแนวทางการเทรดของคุณมากที่สุด? คอมเมนต์บอกเราได้เลย!
ให้คะแนนบทความ




ความคิดเห็น
0
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อโพสต์ความคิดเห็น