ธุรกรรมคริปโตเคอร์เรนซีคืออะไร และทำงานอย่างไร?

การส่งและรับคริปโตในปัจจุบันเป็นสิ่งที่แม้แต่มือใหม่ก็ทำได้สำเร็จง่ายๆ ด้วยกระเป๋าคริปโตที่ใช้งานไม่ซับซ้อน แต่คุณรู้จริงๆ หรือไม่ว่าธุรกรรมคริปโตคืออะไร? ถ้าคุณยังตอบคำถามนี้ไม่ชัด บทความนี้เหมาะสำหรับคุณ

Crypto Transaction คืออะไร?

พูดง่ายๆ ธุรกรรมคริปโตคือการโอนสินทรัพย์ระหว่างกระเป๋าคริปโต ซึ่งจะถูกบันทึกลงในบล็อกเชนที่เหรียญนั้นทำงานอยู่ บางครั้งผู้คนเรียกธุรกรรมว่า TXNS ซึ่งย่อมาจาก Transactions อย่างที่คุณอาจทราบแล้ว คริปโตไม่ได้ “เป็นของผู้ใช้” ในลักษณะเดียวกับเงินเฟียต เพราะมัน “อยู่” บน บล็อกเชน และไม่เคยออกจากมันเลย ซึ่งหมายความว่ากระบวนการโอนคริปโตจึงทำงานแตกต่างจากธุรกรรมเงินเฟียตทั่วไป ทำให้ซับซ้อนกว่าเล็กน้อย

ธุรกรรมคริปโตทำงานอย่างไร?

มาดูขั้นตอนการทำงานของธุรกรรมคริปโตอย่างละเอียด

ขั้นตอนที่ 1: การเริ่มต้นธุรกรรม

ธุรกรรมคริปโตประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ: ผู้ส่ง, ผู้รับ และ รายละเอียดธุรกรรม

• ผู้ส่ง คือผู้ที่สร้างคำขอเพื่อโอนคริปโตจำนวนหนึ่งให้ผู้ใช้อื่น
• ผู้รับ คือผู้ที่ให้ที่อยู่กระเป๋าของตนแก่ผู้ส่งเพื่อรับสินทรัพย์
• รายละเอียดธุรกรรม ประกอบด้วยจำนวนคริปโตที่จะโอน และที่อยู่กระเป๋าของทั้งสองฝ่าย

เมื่อคุณมีข้อมูลทั้งหมดนี้ ก็พร้อมที่จะเริ่มทำธุรกรรมได้แล้ว

ขั้นตอนที่ 2: การตรวจสอบและการอนุมัติ

เมื่อกรอกรายละเอียดครบ ผู้ส่งจะต้องเซ็นธุรกรรมด้วย คีย์ส่วนตัว (Private Key) ซึ่งเป็นรหัสตัวอักษรและตัวเลขที่ใช้เข้าถึงคริปโตของตน ขั้นตอนนี้เป็นกระบวนการเข้ารหัสที่ยืนยันว่าผู้ส่งเป็นเจ้าของคริปโตนั้นจริง คีย์ส่วนตัวจะสร้างลายเซ็นดิจิทัลเพื่อยืนยันตัวตนและอนุมัติธุรกรรม

แต่ถ้าคุณใช้กระเป๋าแบบ Custodial เช่น Cryptomus คุณไม่จำเป็นต้องจำคีย์ส่วนตัวเอง เพราะผู้ให้บริการจะเซ็นธุรกรรมให้โดยอัตโนมัติ

ขั้นตอนที่ 3: การกระจายธุรกรรมไปยังเครือข่าย

เมื่อเซ็นเรียบร้อย ธุรกรรมจะถูกส่งไปยังเครือข่าย โดยเฉพาะโหนด (Nodes) ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่รันโปรโตคอลของคริปโตนั้น ทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกลงบนบล็อกเชน ซึ่งทำหน้าที่เป็นบัญชีแยกประเภทสาธารณะ

ขั้นตอนที่ 4: การตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรม

ธุรกรรมต้องถูกตรวจสอบความถูกต้อง ไม่ว่าจะโดยนักขุด (Miners) ที่ใช้กลไก PoW หรือโดย ตัวตรวจสอบ (Validators) ที่ใช้กลไก PoS เพื่อตรวจสอบว่าผู้ส่งมีคริปโตเพียงพอและไม่มีการใช้ซ้ำ (Double-Spending) ขั้นตอนนี้ทำให้ธุรกรรมไม่เกิดขึ้นทันที และใช้เวลาตามค่าธรรมเนียมเครือข่ายที่จ่าย ซึ่งอาจส่งผลต่อความเร็วการโอน

เมื่อธุรกรรมผ่านการตรวจสอบแล้ว มันจะถูกรวมกับธุรกรรมอื่นๆ กลายเป็นบล็อกและถูกเพิ่มลงในบล็อกเชน

ขั้นตอนที่ 5: การเสร็จสิ้น

เมื่อธุรกรรมถูกบันทึกลงบล็อกเชนแล้ว จะถือว่า “ยืนยันแล้ว” (Confirmed) และผู้รับจะเห็นยอดเงินในกระเป๋าของตน

องค์ประกอบของธุรกรรมคริปโต

เมื่อเข้าใจการทำงานแล้ว มาดูกันว่าองค์ประกอบของธุรกรรมมีอะไรบ้าง และทำไมถึงสำคัญ

Wallet Address

ที่อยู่กระเป๋า (Wallet Address) คือรหัสตัวอักษรและตัวเลขที่ไม่ซ้ำกัน ใช้เป็นปลายทางสำหรับการโอนคริปโต เปรียบเสมือนหมายเลขบัญชีดิจิทัล โดยแต่ละกระเป๋ามี:

• Public Address: หมายเลขที่ผู้รับให้ผู้ส่งเพื่อรับคริปโต สามารถแชร์ได้อย่างปลอดภัย
• Private Key: ใช้เซ็นธุรกรรมและยืนยันความเป็นเจ้าของ ต้องเก็บไว้เป็นความลับ

Hash

Hash ของธุรกรรม หรือ TxHash คือรหัสเฉพาะที่สร้างขึ้นทุกครั้งเมื่อมีการทำธุรกรรมในบล็อกเชน ใช้ระบุธุรกรรมแบบไม่ซ้ำและไม่สามารถแก้ไขได้หลังได้รับการยืนยัน ข้อมูลนี้ประกอบด้วยที่อยู่กระเป๋าที่เกี่ยวข้อง จำนวนที่โอน วันที่และเวลา และสถานะปัจจุบัน ทำให้สามารถติดตามได้ทุกขั้นตอนผ่าน Blockchain Explorer

Fees

ธุรกรรมคริปโตต้องมีค่าธรรมเนียม (Transaction Fee) เพื่อจ่ายให้นักขุดหรือผู้ตรวจสอบ ซึ่งทำหน้าที่ประมวลผลและยืนยันธุรกรรม

• เป็น แรงจูงใจ ให้ Miners/Validators ทำงาน
• ใช้ กำหนดลำดับความสำคัญ ในการประมวลผล ยิ่งจ่ายสูง การยืนยันก็จะเร็วขึ้น

ค่าธรรมเนียมจะแตกต่างตามความหนาแน่นของเครือข่าย เช่น ช่วงที่ Ethereum มีธุรกรรมหนาแน่น ค่าธรรมเนียมจะสูงขึ้นเพื่อจูงใจให้ประมวลผลเร็วขึ้น

Confirmation

การยืนยัน (Confirmation) คือกระบวนการที่ Miners/Validators ตรวจสอบว่าธุรกรรมถูกต้องและเพิ่มลงบล็อกเชน

• Initial Confirmation: ได้รับการยืนยันครั้งแรกเมื่อธุรกรรมถูกรวมในบล็อก
• Additional Confirmations: การเพิ่มบล็อกใหม่เชื่อมต่อกับบล็อกที่มีธุรกรรม ยิ่งมีมากยิ่งปลอดภัย
• Finality: ส่วนใหญ่หลังจาก 6 Confirmations ธุรกรรมจะถือว่าถาวรและไม่สามารถย้อนกลับได้

องค์ประกอบหลักเหล่านี้ — Wallet Address, Hash, Fees และ Confirmation — คือสิ่งที่ทำให้ธุรกรรมคริปโตมีความปลอดภัย โปร่งใส และเชื่อถือได้

คุณคิดว่าบทความนี้ช่วยให้เข้าใจธุรกรรมคริปโตได้มากขึ้นหรือไม่? รู้หรือไม่ว่ามีองค์ประกอบหลายอย่างอยู่เบื้องหลังการโอนเพียงครั้งเดียว? คอมเมนต์มาพูดคุยกันได้เลย!