
รูปแบบธงคืออะไร และจะใช้ในการซื้อขายได้อย่างไร?
มีแท็กติกการเทรดมากมายในตลาดคริปโตที่สามารถให้คุณมีกลยุทธ์ที่มั่นคงและสร้างกำไรได้ในภายหลัง หนึ่งในนั้นคือ “ธง” (flag) ซึ่งถูกใช้ในการคาดการณ์ความผันผวนของราคาในกระดานเทรดยอดนิยม บทความนี้เราจะมาเจาะลึกว่า flag pattern คืออะไร พร้อมทั้งอธิบายการเกิดรูปแบบและการนำไปใช้ในการเทรด
Flag Pattern คืออะไร?
มาเริ่มกันด้วยคำจำกัดความ: flag pattern ในคริปโตคือกราฟที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในทางเทคนิคอล โดยบ่งบอกถึงการหยุดชั่วคราวในเทรนด์ปัจจุบัน ซึ่งมักเกิดขึ้นไปในทิศทางเดียวกับการเคลื่อนไหวราคาหลัก
รูปแบบนี้ประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ: ส่วนแรกคือ flagpole ที่หมายถึงการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรุนแรง และส่วนที่สองคือ flag ซึ่งสะท้อนการที่ราคานิ่งอยู่ในกรอบขนาน สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าช่วง consolidation นี้มักเกิดขึ้นที่ระดับสูงของ downtrend ในกรอบราคาที่ค่อนข้างแคบ
แท็กติกของรูปแบบนี้คือการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับเทรนด์ปัจจุบัน หากตลาดกำลังขึ้น ธงจะชี้ลงเล็กน้อย และหากตลาดกำลังลง ธงจะเอียงขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นกลยุทธ์ที่มีอัตราความสำเร็จสูงมักจะสวนทางกับเทรนด์หลัก
Flag pattern มีอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ bullish และ bearish มาลองวิเคราะห์รายละเอียดกัน
Bull Flag Pattern
Bullish flag เกิดขึ้นเมื่อราคาตลาดคริปโตพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากราคาพุ่งแรง การเคลื่อนไหวจะอยู่ในกรอบธงซึ่งบ่งชี้ว่าราคาจะไปต่อหลังจากหยุดพักช่วงสั้นๆ บ่อยครั้งราคาจะทะลุเส้นบนของธงขึ้นไป แสดงถึงการต่อเนื่องของขาขึ้น

วิธีการระบุ Bull Flag Pattern
เราได้เตรียมอัลกอริทึมเพื่อช่วยคุณระบุ bullish flag ในตลาด:
- หาการเคลื่อนไหวขึ้นแรง (flagpole): ราคาควรปรับขึ้นอย่างชัดเจนในเวลาสั้นๆ เพื่อแสดงจุดเริ่มต้นของรูปแบบ
- หาช่วง consolidation (flag): หลังจากราคาพุ่ง ราคาจะเริ่มแก้ไขตัวเองโดยเคลื่อนไหวในกรอบเล็กๆ
- ตรวจสอบ volume: ในช่วง consolidation ปริมาณการซื้อขายควรลดลง แสดงถึงแรงขายที่อ่อนตัวลง
- รอการ breakout: เมื่อราคาทะลุเส้นบนของธงขึ้นไป กลยุทธ์ก็จะได้รับการยืนยัน
- คำนวณเป้าหมายราคา: บวกความสูงของ flagpole เข้ากับจุด breakout เช่น หาก flagpole สูง $50 และ breakout เกิดที่ $200 ราคาเป้าหมายจะเป็น $250
อัลกอริทึมนี้ช่วยให้คุณระบุ bull flag บน กราฟ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
วิธีใช้ Bull Flag Pattern
เพื่อประยุกต์ใช้รูปแบบนี้ในการเทรด ทำตามขั้นตอนและใส่ใจรายละเอียด:
- เปิด buy position. เลือกจังหวะที่ราคาทะลุออกจากช่วง consolidation และกลับเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้ง
- คำนวณกำไรเป้าหมาย. วัดจากความยาวของ flag หรือส่วนต่างของราคาที่ขอบบน-ล่างของธง
- ตั้ง stop loss. ไว้ที่หรือใต้เส้นแนวรับล่างของธงเล็กน้อย

Bear Flag Pattern
Bearish flag เกิดขึ้นในช่วงขาลง เมื่อราคาตลาดคริปโตปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง มันบ่งบอกถึงการลดลงต่อไปหลังจากมีการ consolidation ชั่วคราว หากราคาทะลุเส้นล่างของธง ขาลงจะดำเนินต่อ

วิธีการระบุ Bear Flag Pattern
เพื่อให้ระบุได้ทันเวลา ทำตามอัลกอริทึมนี้:
- หาการเคลื่อนไหวลงแรง (flagpole): มองหาการปรับตัวลงแรงก่อนที่ธงจะก่อตัว
- หาช่วง consolidation (flag): หลังจากราคาลดลง จะมีการดีดตัวเล็กน้อยสวนเทรนด์หลัก มักอยู่ใน ascending channel
- ตรวจสอบ volume: โดยทั่วไปปริมาณจะลดลงในช่วง consolidation แสดงถึงแรงซื้อที่อ่อนแอ
- รอการ breakout: เมื่อราคาทะลุเส้นล่างของ channel รูปแบบจะได้รับการยืนยัน
- คำนวณเป้าหมายราคา: ลบความสูงของ flagpole ออกจากจุด breakout เช่น ราคาตกจาก $100 เหลือ $70 (flagpole = $30) จากนั้นรีบาวด์ขึ้นไป $80 และเมื่อทะลุลง เป้าหมายราคาจะอยู่ที่ $50
วิธีใช้ Bear Flag Pattern
นี่คืออัลกอริทึมสำหรับเทรดตามเทรนด์ขาลงด้วย bear flag:
- เปิด short position. ทำเมื่อราคาทะลุออกจาก consolidation และกลับเข้าสู่ขาลง
- คำนวณกำไรเป้าหมาย. ใช้ความสูงของ flagpole หรือส่วนต่างของแนวรับแนวต้าน
- ตั้ง stop loss. ใกล้เส้นแนวต้านบนของธงเพื่อลดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น

Bull Flag vs Bear Flag
หากทั้งสองรูปแบบมีประสิทธิภาพ คำถามก็คือ แบบไหนดีกว่ากัน? คำตอบขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและสไตล์การเทรดของคุณ
- Bullish flag เหมาะที่สุดในตลาดขาขึ้นที่สินทรัพย์มีแนวโน้มเติบโต เหมาะสำหรับการซื้อคริปโตและใช้ประโยชน์จากเทรนด์ที่กำลังเติบโต
- Bearish flag มีประสิทธิภาพมากกว่าในตลาดขาลง เหมาะสำหรับการเปิด short position และกลยุทธ์เชิงรุก เช่น การเข้าที่ pullback หรือการเทรดเมื่อราคาทะลุแนวรับของธง
นอกจากนี้ยังต้องพิจารณากลยุทธ์การเทรดของคุณ: หากคุณเป็น long trader (เน้นทำกำไรจากขาขึ้น) bull flag จะเหมาะกว่า เพราะเปิดโอกาสซื้อก่อนรอบพุ่งใหม่ แต่ถ้าคุณชอบ shorting bear flag จะเหมาะกว่า เพราะส่งสัญญาณถึงแรงกดดันขาลงต่อเนื่อง
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ควรใช้รูปแบบเหล่านี้ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เช่น RSI
ดังนั้น เราสามารถสรุปได้ว่า bull flag และ bear flag เป็นรูปแบบที่ทรงพลัง ซึ่งช่วยให้คุณเข้าใจทิศทางของเทรนด์ได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงในการพลาดโอกาสทำกำไร และคุณยังสามารถทดสอบกลยุทธ์เหล่านี้บน Cryptomus exchange ที่มีคู่เทรดให้เลือกมากมาย เพื่อทดลองและผสมผสานรูปแบบได้ตามต้องการ
คุณเคยใช้ flag pattern หรือไม่? เขียนคอมเมนต์แชร์ประสบการณ์กันได้เลย!
ให้คะแนนบทความ




ความคิดเห็น
0
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อโพสต์ความคิดเห็น