รูปแบบธงคืออะไร และจะใช้ในการซื้อขายได้อย่างไร?

มีแท็กติกการเทรดมากมายในตลาดคริปโตที่สามารถให้คุณมีกลยุทธ์ที่มั่นคงและสร้างกำไรได้ในภายหลัง หนึ่งในนั้นคือ “ธง” (flag) ซึ่งถูกใช้ในการคาดการณ์ความผันผวนของราคาในกระดานเทรดยอดนิยม บทความนี้เราจะมาเจาะลึกว่า flag pattern คืออะไร พร้อมทั้งอธิบายการเกิดรูปแบบและการนำไปใช้ในการเทรด

Flag Pattern คืออะไร?

มาเริ่มกันด้วยคำจำกัดความ: flag pattern ในคริปโตคือกราฟที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในทางเทคนิคอล โดยบ่งบอกถึงการหยุดชั่วคราวในเทรนด์ปัจจุบัน ซึ่งมักเกิดขึ้นไปในทิศทางเดียวกับการเคลื่อนไหวราคาหลัก

รูปแบบนี้ประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ: ส่วนแรกคือ flagpole ที่หมายถึงการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรุนแรง และส่วนที่สองคือ flag ซึ่งสะท้อนการที่ราคานิ่งอยู่ในกรอบขนาน สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าช่วง consolidation นี้มักเกิดขึ้นที่ระดับสูงของ downtrend ในกรอบราคาที่ค่อนข้างแคบ

แท็กติกของรูปแบบนี้คือการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับเทรนด์ปัจจุบัน หากตลาดกำลังขึ้น ธงจะชี้ลงเล็กน้อย และหากตลาดกำลังลง ธงจะเอียงขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นกลยุทธ์ที่มีอัตราความสำเร็จสูงมักจะสวนทางกับเทรนด์หลัก

Flag pattern มีอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ bullish และ bearish มาลองวิเคราะห์รายละเอียดกัน

Bull Flag Pattern

Bullish flag เกิดขึ้นเมื่อราคาตลาดคริปโตพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากราคาพุ่งแรง การเคลื่อนไหวจะอยู่ในกรอบธงซึ่งบ่งชี้ว่าราคาจะไปต่อหลังจากหยุดพักช่วงสั้นๆ บ่อยครั้งราคาจะทะลุเส้นบนของธงขึ้นไป แสดงถึงการต่อเนื่องของขาขึ้น

Bull Flag Pattern

วิธีการระบุ Bull Flag Pattern

เราได้เตรียมอัลกอริทึมเพื่อช่วยคุณระบุ bullish flag ในตลาด:

  1. หาการเคลื่อนไหวขึ้นแรง (flagpole): ราคาควรปรับขึ้นอย่างชัดเจนในเวลาสั้นๆ เพื่อแสดงจุดเริ่มต้นของรูปแบบ
  2. หาช่วง consolidation (flag): หลังจากราคาพุ่ง ราคาจะเริ่มแก้ไขตัวเองโดยเคลื่อนไหวในกรอบเล็กๆ
  3. ตรวจสอบ volume: ในช่วง consolidation ปริมาณการซื้อขายควรลดลง แสดงถึงแรงขายที่อ่อนตัวลง
  4. รอการ breakout: เมื่อราคาทะลุเส้นบนของธงขึ้นไป กลยุทธ์ก็จะได้รับการยืนยัน
  5. คำนวณเป้าหมายราคา: บวกความสูงของ flagpole เข้ากับจุด breakout เช่น หาก flagpole สูง $50 และ breakout เกิดที่ $200 ราคาเป้าหมายจะเป็น $250

อัลกอริทึมนี้ช่วยให้คุณระบุ bull flag บน กราฟ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

วิธีใช้ Bull Flag Pattern

เพื่อประยุกต์ใช้รูปแบบนี้ในการเทรด ทำตามขั้นตอนและใส่ใจรายละเอียด:

  1. เปิด buy position. เลือกจังหวะที่ราคาทะลุออกจากช่วง consolidation และกลับเข้าสู่ขาขึ้นอีกครั้ง
  2. คำนวณกำไรเป้าหมาย. วัดจากความยาวของ flag หรือส่วนต่างของราคาที่ขอบบน-ล่างของธง
  3. ตั้ง stop loss. ไว้ที่หรือใต้เส้นแนวรับล่างของธงเล็กน้อย

How To Use Bull Flag Patterns

Bear Flag Pattern

Bearish flag เกิดขึ้นในช่วงขาลง เมื่อราคาตลาดคริปโตปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง มันบ่งบอกถึงการลดลงต่อไปหลังจากมีการ consolidation ชั่วคราว หากราคาทะลุเส้นล่างของธง ขาลงจะดำเนินต่อ

Bear Flag Pattern

วิธีการระบุ Bear Flag Pattern

เพื่อให้ระบุได้ทันเวลา ทำตามอัลกอริทึมนี้:

  1. หาการเคลื่อนไหวลงแรง (flagpole): มองหาการปรับตัวลงแรงก่อนที่ธงจะก่อตัว
  2. หาช่วง consolidation (flag): หลังจากราคาลดลง จะมีการดีดตัวเล็กน้อยสวนเทรนด์หลัก มักอยู่ใน ascending channel
  3. ตรวจสอบ volume: โดยทั่วไปปริมาณจะลดลงในช่วง consolidation แสดงถึงแรงซื้อที่อ่อนแอ
  4. รอการ breakout: เมื่อราคาทะลุเส้นล่างของ channel รูปแบบจะได้รับการยืนยัน
  5. คำนวณเป้าหมายราคา: ลบความสูงของ flagpole ออกจากจุด breakout เช่น ราคาตกจาก $100 เหลือ $70 (flagpole = $30) จากนั้นรีบาวด์ขึ้นไป $80 และเมื่อทะลุลง เป้าหมายราคาจะอยู่ที่ $50

วิธีใช้ Bear Flag Pattern

นี่คืออัลกอริทึมสำหรับเทรดตามเทรนด์ขาลงด้วย bear flag:

  1. เปิด short position. ทำเมื่อราคาทะลุออกจาก consolidation และกลับเข้าสู่ขาลง
  2. คำนวณกำไรเป้าหมาย. ใช้ความสูงของ flagpole หรือส่วนต่างของแนวรับแนวต้าน
  3. ตั้ง stop loss. ใกล้เส้นแนวต้านบนของธงเพื่อลดการขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น

Flag patterns vntr

Bull Flag vs Bear Flag

หากทั้งสองรูปแบบมีประสิทธิภาพ คำถามก็คือ แบบไหนดีกว่ากัน? คำตอบขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดและสไตล์การเทรดของคุณ

  • Bullish flag เหมาะที่สุดในตลาดขาขึ้นที่สินทรัพย์มีแนวโน้มเติบโต เหมาะสำหรับการซื้อคริปโตและใช้ประโยชน์จากเทรนด์ที่กำลังเติบโต
  • Bearish flag มีประสิทธิภาพมากกว่าในตลาดขาลง เหมาะสำหรับการเปิด short position และกลยุทธ์เชิงรุก เช่น การเข้าที่ pullback หรือการเทรดเมื่อราคาทะลุแนวรับของธง

นอกจากนี้ยังต้องพิจารณากลยุทธ์การเทรดของคุณ: หากคุณเป็น long trader (เน้นทำกำไรจากขาขึ้น) bull flag จะเหมาะกว่า เพราะเปิดโอกาสซื้อก่อนรอบพุ่งใหม่ แต่ถ้าคุณชอบ shorting bear flag จะเหมาะกว่า เพราะส่งสัญญาณถึงแรงกดดันขาลงต่อเนื่อง

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ควรใช้รูปแบบเหล่านี้ร่วมกับเครื่องมือทางเทคนิคอื่นๆ เช่น RSI

ดังนั้น เราสามารถสรุปได้ว่า bull flag และ bear flag เป็นรูปแบบที่ทรงพลัง ซึ่งช่วยให้คุณเข้าใจทิศทางของเทรนด์ได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงในการพลาดโอกาสทำกำไร และคุณยังสามารถทดสอบกลยุทธ์เหล่านี้บน Cryptomus exchange ที่มีคู่เทรดให้เลือกมากมาย เพื่อทดลองและผสมผสานรูปแบบได้ตามต้องการ

คุณเคยใช้ flag pattern หรือไม่? เขียนคอมเมนต์แชร์ประสบการณ์กันได้เลย!

เนื้อหานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลและการศึกษาเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือทางกฎหมาย

ให้คะแนนบทความ

โพสต์ก่อนหน้าตัวบ่งชี้ RSI ใน Crypto คืออะไรและใช้งานอย่างไร
โพสต์ถัดไปตัวบ่งชี้ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดคริปโตเคอร์เรนซี

หากคุณมีคำถาม กรุณาฝากข้อมูลติดต่อไว้ แล้วเราจะติดต่อกลับหาคุณ

banner

ทำให้การเดินทางสู่ Crypto ของคุณง่ายขึ้น

อยากเก็บ ส่ง รับ เดิมพัน หรือซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีใช่ไหม? Cryptomus ทำได้ทุกอย่าง — สมัครและจัดการกองทุนคริปโทเคอร์เรนซีของคุณด้วยเครื่องมืออันแสนสะดวกของเรา

เริ่มต้นใช้งาน

banner

ความคิดเห็น

0