
การทำธุรกรรม Ripple (XRP): ค่าธรรมเนียม ความเร็ว และข้อจำกัด
บล็อกเชน Ripple ถูกสร้างขึ้นในปี 2012 เพื่อการโอนเงินข้ามโลกอย่างไร้รอยต่อ มันรองรับ smart contracts และ dApps และมีสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองคือ XRP แม้จะถูกออกแบบมาตั้งแต่แรก แต่จริง ๆ แล้วเหรียญนี้เพิ่งเริ่มได้รับความนิยมในการทำธุรกรรมทางการเงินเมื่อประมาณ 7 ปีที่ผ่านมา แล้วการโอน Ripple มีคุณสมบัติอะไรบ้าง? บทความนี้จะอธิบายให้คุณเข้าใจ
องค์ประกอบของการทำธุรกรรม Ripple
การทำธุรกรรม Ripple คือการโอนเหรียญ XRP จากกระเป๋าเงินคริปโตหนึ่งไปยังกระเป๋าอีกใบ หรือจากผู้ใช้หนึ่งไปยังอีกผู้ใช้หนึ่ง โดยมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องและกำหนดขั้นตอน ดังนี้:
- ข้อมูลธุรกรรม: รวมถึง ที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโต ของผู้ส่งและผู้รับ และจำนวนเหรียญที่ต้องการโอน
- ลายเซ็น (Signature): การยืนยันทางคริปโตกราฟิกว่าผู้ส่งเป็นเจ้าของสินทรัพย์จริง
- Public signature key: กุญแจสาธารณะของบัญชีผู้ใช้ ใช้สำหรับตรวจสอบความถูกต้องของลายเซ็นธุรกรรม
- Hash: หมายเลขประจำตัวเฉพาะ (Transaction ID) สำหรับติดตามสถานะธุรกรรมในเครือข่าย
- ค่าคอมมิชชั่น (Commission): จำนวนที่ผู้ส่งจ่ายเพื่อให้ธุรกรรมสำเร็จและเพื่อรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย
ขั้นตอนการทำธุรกรรม Ripple
เมื่อเข้าใจพื้นฐานของการทำธุรกรรม XRP แล้ว เราจะเห็นภาพรวมของกระบวนการได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 ขั้นตอน:
- ขั้นที่ 1: การสร้าง (Creation) – เจ้าของเหรียญ XRP ตัดสินใจโอนและกรอกข้อมูล เช่น ที่อยู่กระเป๋าผู้รับ จำนวนเหรียญ บล็อกเชน และอาจใส่ข้อความประกอบ
- ขั้นที่ 2: ส่งไปยังเครือข่าย – เมื่อกด “Send” ธุรกรรมจะถูกเซ็นและส่งต่อไปยังเครือข่าย XRP Ledger เพื่อเข้าสู่โหนดและเซิร์ฟเวอร์ของ Ripple
- ขั้นที่ 3: การตรวจสอบ (Validation) – โหนดตรวจสอบธุรกรรม ตรวจสอบลายเซ็นและดูว่ายอดเงินมีพอจ่ายค่าคอมมิชชั่นหรือไม่
- ขั้นที่ 4: Consensus – Validators ใช้กลไก consensus เพื่อเห็นพ้องกันว่าธุรกรรมใดควรถูกบันทึกใน Ledger กระบวนการนี้เกิดขึ้นทุก ๆ ไม่กี่วินาที
- ขั้นที่ 5: อัปเดต Ledger – เมื่อได้ข้อสรุป ธุรกรรมที่ยืนยันแล้วจะถูกเพิ่มใน Ledger ใหม่ กลายเป็นธุรกรรมที่ไม่สามารถย้อนกลับได้
- ขั้นที่ 6: เสร็จสิ้น – Ledger จะอัปเดตยอดของผู้ส่งและผู้รับโดยอัตโนมัติ ธุรกรรมถูกจัดเก็บใน Registry สำหรับการอ้างอิงในอนาคต
แม้ธุรกรรมในเครือข่ายจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว คุณก็ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของสินทรัพย์เพิ่มเติม เช่น ใช้ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินคริปโตที่เชื่อถือได้หรือ Exchange ที่มีมาตรการป้องกัน เช่น AML และ 2FA ตัวอย่างเช่น Cryptomus wallet ช่วยให้การเก็บ XRP มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม Ripple
กลไกการคิดค่าคอมมิชชั่นของ Ripple แตกต่างจากบล็อกเชนอื่น เช่น Ethereum เนื่องจากค่าธรรมเนียมไม่ได้จ่ายให้กับ Validators แต่ถูกใช้เพื่อป้องกัน spam และรักษาความปลอดภัยเครือข่าย หลังจากนั้นค่าธรรมเนียมจะถูกทำลาย (burn) ออกจาก supply ของ XRP
ค่าธรรมเนียมในเครือข่าย Ripple ค่อนข้างคงที่ โดยอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อมีการจราจรหนาแน่นเพื่อจัดลำดับธุรกรรม ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0.00001 XRP ซึ่งถูกมากจนถือว่าแทบจะ “ฟรี”
ใช้เวลานานแค่ไหนในการโอน Ripple?
นอกจากค่าธรรมเนียมต่ำ Ripple ยังขึ้นชื่อเรื่องความเร็ว โดยการทำธุรกรรม XRP ใช้เวลาเพียง 3–5 วินาที อาจล่าช้าเล็กน้อยหากเครือข่ายหนาแน่น
Ripple สามารถประมวลผลได้ประมาณ 1,500 ธุรกรรมต่อวินาที แม้จะน้อยกว่าบล็อกเชนบางราย แต่เมื่อรวมกับความเร็วที่มาก จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการชำระเงิน โดยเฉพาะการโอนข้ามประเทศ
ทำไมธุรกรรม Ripple ของคุณถึง Pending?
แม้เครือข่าย Ripple จะเร็ว แต่ก็อาจมีกรณียกเว้นที่ธุรกรรมค้างได้ เช่น:
- Network overload – เครือข่ายมีธุรกรรมจำนวนมากเกินไป
- การอัปเดต XRP registry – การบำรุงรักษาอาจทำให้การประมวลผลหยุดชั่วคราว
- ปัญหากับกระเป๋าหรือ Exchange – บางแพลตฟอร์มอาจใช้วิธีประมวลผลแบบ batch
- ค่าคอมมิชชั่นไม่เพียงพอ – แม้ค่าธรรมเนียม Ripple ต่ำมาก แต่หากกำหนดขั้นต่ำในช่วงที่เครือข่ายหนาแน่น อาจทำให้ธุรกรรมล่าช้า
โดยทั่วไป ธุรกรรม XRP จะได้รับการยืนยันอย่างรวดเร็ว แม้จะมีความล่าช้าก็จะเสร็จในเวลาไม่นาน คุณสามารถ ตรวจสอบ สถานะธุรกรรมได้เสมอ
วิธีตรวจสอบธุรกรรม XRP
ธุรกรรมจะมี hash สำหรับติดตามผ่าน blockchain explorers เช่น “XRP Scan” หรือ “Bithomp” ขั้นตอนคือ:
- รับ hash – จากประวัติธุรกรรมในกระเป๋าเงินหรือ Exchange
- เลือก blockchain explorer – เช่น XRP Scan
- ค้นหาธุรกรรม – กรอก hash ในช่องค้นหา
- ตรวจสอบข้อมูลธุรกรรม – ดูรายละเอียดผู้ส่ง ผู้รับ จำนวนเหรียญ ค่าคอมมิชชั่น เวลา Block และสถานะ
การตรวจสอบนี้ช่วยให้คุณรู้ว่าธุรกรรมสำเร็จ อยู่ระหว่างดำเนินการ หรือถูกปฏิเสธ
สรุป
Ripple มอบข้อดีทั้งความเร็วในการประมวลผลและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ทำให้เป็นโซลูชันยอดนิยมสำหรับการโอนเงินทั้งภายในประเทศและ การโอนข้ามพรมแดน หากคุณต้องการความคุ้มค่าและการทำธุรกรรมถี่ Ripple คือคำตอบ
เราหวังว่าคู่มือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจการทำธุรกรรม Ripple ได้ดียิ่งขึ้น และสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่าจะใช้เครือข่ายนี้และเหรียญ XRP อย่างไร
ให้คะแนนบทความ




ความคิดเห็น
0
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อโพสต์ความคิดเห็น