
วิธีติดตามธุรกรรมบน Blockchain
เทคโนโลยี blockchain มีชื่อเสียงเรื่อง ความโปร่งใส ทุกธุรกรรม crypto ถูกบันทึกไว้สาธารณะ ทำให้ทุกคนสามารถเห็นและตรวจสอบรายละเอียดได้ แต่คำถามคือจะทำยังไง?
คู่มือนี้จะพาคุณไปสำรวจวิธีติดตามธุรกรรม crypto โดยเราจะอธิบายคำพื้นฐานและวิธีการที่ใช้ได้จริง
องค์ประกอบพื้นฐานของธุรกรรม Cryptocurrency
ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการติดตาม มาทำความเข้าใจองค์ประกอบพื้นฐานของธุรกรรม crypto กันก่อน:
- Hash: คือรหัสประจำธุรกรรม (ID) ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยอัลกอริทึมเข้ารหัส (cryptographic algorithm) ใช้ยืนยันความถูกต้องและความไม่สามารถแก้ไขของธุรกรรม หากเปลี่ยนรายละเอียดแม้แต่น้อย Hash ก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
- Sender Wallet: คือ address ของกระเป๋าที่ส่งสินทรัพย์ดิจิทัลออกไป
- Recipient Wallet: คือ address ของกระเป๋าที่ได้รับสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าไป
องค์ประกอบเหล่านี้ รวมถึงจำนวนเงินและ timestamp จะถูกบันทึกลงบน blockchain ซึ่งทำหน้าที่เป็น public ledger ที่เก็บธุรกรรมทั้งหมดแบบเรียงตามเวลาและสาธารณะ ทำให้ไม่สามารถแก้ไขหรือย้อนกลับธุรกรรมได้
อีกปัจจัยที่ควรรู้คือ transaction fees ซึ่งแตกต่างกันตามความหนาแน่นของเครือข่ายและความเร่งด่วนของธุรกรรม
วิธีติดตามธุรกรรม Bitcoin
Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่โด่งดังที่สุด ใช้ blockchain ของตัวเอง คุณสามารถติดตามธุรกรรม Bitcoin ได้ เพราะทุกธุรกรรมเป็นสาธารณะและถูกบันทึกถาวรบน blockchain อย่างไรก็ตาม การติดตามจะทำได้เฉพาะการเคลื่อนย้าย token ไม่ใช่ตัวบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง
Blockchain Explorer
Blockchain explorer คือแอปหรือเว็บไซต์ที่ให้ผู้ใช้ดูรายละเอียดธุรกรรมบน blockchain แต่ละเครือข่ายมี explorer ของตัวเอง เช่น explorer ของ Bitcoin ใช้ไม่ได้กับ Ethereum
ตัวเลือกยอดนิยมสำหรับ Bitcoin ได้แก่ Cryptomus, Blockchain.com และ Mempool คุณสามารถติดตามธุรกรรม Bitcoin ได้โดยการกรอก address ของ Bitcoin หรือ transaction ID ลงใน explorer
ขั้นตอน:
- เข้าเว็บไซต์ Blockchain Explorer ของ Bitcoin
- ใส่ Transaction ID, Sender หรือ Recipient Wallet Address
- ดูข้อมูลที่ explorer แสดงออกมา
โดยทั่วไป explorer จะแสดงข้อมูล เช่น จำนวนเงินที่โอน, เวลา (timestamp), ค่า transaction fees, สถานะการยืนยัน (confirmation status), และ address ของผู้ส่ง/ผู้รับ แม้กระทั่ง cold wallet ก็สามารถตรวจสอบธุรกรรมย้อนหลังได้ถ้ามี address

Wallet History
นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ถ้าคุณใช้ crypto wallet สำหรับทำธุรกรรม Bitcoin คุณสามารถตรวจสอบประวัติธุรกรรมได้โดยตรงใน wallet ของคุณเอง
กระเป๋าส่วนใหญ่จะเก็บบันทึกธุรกรรมทั้งขาเข้าและขาออกในส่วน "History" และเมื่อกดที่ธุรกรรม ก็จะแสดงรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น จำนวน, วันที่, และ address ของผู้ส่ง/ผู้รับ
ข้อจำกัดคือ ใช้ได้เฉพาะธุรกรรมของคุณเอง และรายละเอียดอาจไม่ละเอียดเท่าที่ blockchain explorer มี
Third-Party Services
มีบริการบุคคลที่สามหลายแห่งที่ช่วยติดตามธุรกรรม Bitcoin เช่น Blockchair และ CoinMarketCap
แพลตฟอร์มเหล่านี้จะรวบรวมข้อมูลจาก Bitcoin blockchain มาแสดงในรูปแบบที่อ่านง่ายและวิเคราะห์ได้สะดวก บางครั้งอาจต้องเสียค่าบริการหรือสมัครสมาชิก
โดยทั่วไปผู้ใช้สามารถกรองธุรกรรมตามวันที่, ประเภท หรือจำนวน และใช้งานได้ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ บางแพลตฟอร์มยังให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม เช่น พฤติกรรมการลงทุน (investment pattern) หรือข้อมูลผู้ถือ wallet (แม้จะจำกัดก็ตาม)
Blockchain History
สำหรับผู้ใช้ขั้นสูง คุณสามารถดาวน์โหลด blockchain ทั้งหมดมาเก็บไว้เพื่อใช้งานแบบ offline ได้ วิธีนี้ต้องมีทักษะทางเทคนิคสูงและไม่เหมาะกับมือใหม่
คุณต้องรัน full node ซึ่งจะดาวน์โหลด ledger ของ blockchain ทั้งหมดมาเก็บไว้ในเครื่อง จากนั้นคุณสามารถค้นหาธุรกรรมได้เองแบบ offline ข้อเสียคือใช้พื้นที่เก็บข้อมูลมหาศาล เช่น full node ของ Bitcoin ต้องการพื้นที่มากกว่า 340 GB
วิธีติดตามธุรกรรม USDT
Tether (USDT) เป็น stablecoin ที่ผูกกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) แตกต่างจาก Bitcoin ที่มี blockchain ของตัวเอง โดย USDT สามารถอยู่ได้หลาย blockchain ที่นิยมคือ:
- ERC-20 ใช้ Ethereum blockchain
- TRC-20 ใช้ Tron blockchain
คุณสามารถอ่านความแตกต่างเพิ่มเติมได้ใน บทความนี้
สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่า USDT ไม่สามารถติดตามตรง ๆ ได้เพราะมันไม่มี blockchain ของตัวเอง แต่คุณสามารถติดตามธุรกรรม USDT ได้ตาม blockchain ที่มันอยู่ เช่น ใช้ Tron explorer เพื่อตรวจสอบ USDT TRC-20 หรือใช้ Ethereum explorer เพื่อตรวจสอบ USDT ERC-20
กระบวนการติดตามก็เหมือนกับ Bitcoin คือใช้ blockchain explorer ใส่ transaction ID หรือ address แล้วดูรายละเอียด
ให้คะแนนบทความ




ความคิดเห็น
0
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อโพสต์ความคิดเห็น