สเตเบิลคอยน์แรกของญี่ปุ่นที่อิงเยน JPYC เปิดตัววันนี้ 27 ตุลาคม

ญี่ปุ่นก้าวสำคัญในการนำบล็อกเชนมาใช้ในระบบการเงินด้วยการเปิดตัว JPYC สเตเบิลคอยน์ที่อิงกับเงินเยนของประเทศ เปิดตัวแล้ว วันนี้ 27 ตุลาคม ซึ่งได้รับการอนุมัติจาก Financial Services Agency การนำไปใช้เบื้องต้นโดยธุรกิจต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงการยอมรับอย่างระมัดระวังแต่กำลังขยายตัว JPYC อาจช่วยสนับสนุนการใช้การชำระเงินดิจิทัลและสินทรัพย์โทเคนในวงกว้างทั่วญี่ปุ่น

JPYC คือสเตเบิลคอยน์อะไร?

JPYC เป็นสเตเบิลคอยน์จากบริษัทฟินเทค JPYC ในโตเกียว มีอัตราแลกเปลี่ยน 1:1 กับเงินเยน มูลค่าของโทเคนได้รับการสนับสนุนด้วยเงินฝากธนาคารและพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น ทำให้ผู้ใช้มั่นใจว่าแต่ละโทเคนมีค่าเท่ากับเงินเยน ในงานแถลงข่าวที่โตเกียว ประธาน JPYC Noriyoshi Okabe กล่าว ว่าการเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็น “ก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ของเงินญี่ปุ่น”

หลายบริษัทแสดงความสนใจนำ JPYC มาใช้ในระบบชำระเงินของตน แม้ว่าโลกจะมีสเตเบิลคอยน์ที่อิงดอลลาร์สหรัฐ เช่น USDT และ USDC เป็นหลัก แต่ตัวเลือกที่อิงเยนถือเป็นทางเลือกเฉพาะในเอเชีย นอกจากนี้ยังช่วยกระจายสภาพคล่องและสนับสนุนสินทรัพย์พันธบัตรรัฐบาลของญี่ปุ่น

JPYC ถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย ในช่วงเริ่มต้นจะไม่มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม โดยแพลตฟอร์มจะสร้างรายได้จากดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น โครงสร้างนี้ช่วยให้เข้าถึงได้ง่าย แต่ยังคงมีพื้นฐานทางการเงินที่มั่นคง ตามแนวทางของสเตเบิลคอยน์ที่ประสบความสำเร็จอื่น ๆ แต่ปรับให้เข้ากับเศรษฐกิจญี่ปุ่น

JPYC ทำงานอย่างไร?

นอกจากโทเคน JPYC ยังได้เปิดตัว JPYC EX แพลตฟอร์มสำหรับออก, แลกคืน และจัดการสเตเบิลคอยน์โดยเฉพาะ แพลตฟอร์มนี้มีการตรวจสอบตัวตนอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย Act on Prevention of Transfer of Criminal Proceeds ของญี่ปุ่น ทำให้การดำเนินงานปลอดภัยและถูกกฎหมาย ผู้ใช้สามารถฝากเงินเยนผ่านการโอนธนาคารเพื่อรับ JPYC ในกระเป๋าเงินที่ลงทะเบียน และการแปลงกลับเป็นเงินเยนก็ง่าย

แพลตฟอร์มมุ่งสนับสนุนการใช้งานจริง JPYC ตั้งเป้าออกโทเคนรวมมูลค่า 10 ล้านล้านเยนภายใน 3 ปี ธนาคารรายใหญ่ เช่น Mitsubishi UFJ, Sumitomo Mitsui และ Mizuho มีแผนที่จะ เปิดตัว ระบบสเตเบิลคอยน์เยนร่วมกันสำหรับการชำระเงินของธุรกิจในวันที่ 31 ตุลาคม หากมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย อาจเชื่อมต่อเครื่องรับชำระเงินหลายแสนเครื่องและนำเงินเยนดิจิทัลมาใช้ในชีวิตประจำวัน

JPYC EX ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ความโปร่งใส และการปฏิบัติตามกฎหมาย แสดงให้เห็นความพยายามทำให้สเตเบิลคอยน์เป็นส่วนที่เชื่อถือได้ของระบบการชำระเงินญี่ปุ่น การชำระเงินดิจิทัลในญี่ปุ่นเติบโตจาก 13% ในปี 2010 เป็นมากกว่า 42% ในปี 2024

ศักยภาพตลาดและความท้าทายในการยอมรับ

การเปิดตัว JPYC ทำให้ญี่ปุ่นเป็นเศรษฐกิจใหญ่ประเทศแรกที่สนับสนุนสเตเบิลคอยน์ที่ไม่อิงดอลลาร์สหรัฐในระดับกว้าง สิ่งนี้อาจส่งผลต่อสภาพคล่องในภูมิภาค การชำระเงินข้ามพรมแดน และการใช้ DeFi นักวิเคราะห์คาดว่าโทเคนที่อิงเยนจะเติบโตอย่างช้า ๆ ในอีก 2–3 ปีข้างหน้า คล้ายกับผลกระทบของสเตเบิลคอยน์ดอลลาร์ต่อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

คาดว่าการนำไปใช้อาจเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ญี่ปุ่นยังพึ่งพาเงินสดและธนาคารแบบดั้งเดิมมาก ทำให้ทั้งธุรกิจและผู้บริโภคต้องปรับตัว อย่างไรก็ตาม ความสนใจจากสถาบันเพิ่มขึ้น และสเตเบิลคอยน์อาจทำหน้าที่เสริมธนาคารแบบดั้งเดิมมากกว่าที่จะมาแทนที่

ตลาดสเตเบิลคอยน์ทั่วโลกส่วนใหญ่เป็นดอลลาร์ โดยกว่า 99% อิงกับ USD การเปิดตัว JPYC อย่างประสบความสำเร็จอาจมอบทางเลือกเพิ่มเติมให้กับนักเทรด นักลงทุน และธุรกิจที่ต้องการสภาพคล่องดิจิทัลที่อิงเยน

อนาคตของเงินเยนดิจิทัล

JPYC แสดงให้เห็นถึงแนวทางรอบคอบของญี่ปุ่นในด้านการเงินดิจิทัล ด้วยการเชื่อมโยงสเตเบิลคอยน์กับพันธบัตรภายในประเทศและปฏิบัติตามกฎหมาย ญี่ปุ่นกำลังสำรวจว่าบล็อกเชนสามารถทำงานในชีวิตประจำวันได้อย่างไร หลายเดือนข้างหน้าจะเป็นตัวชี้วัดว่า JPYC จะสามารถได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งจากผู้บริโภคและธุรกิจได้หรือไม่ ซึ่งอาจเปิดประตูสู่การใช้งานเงินเยนดิจิทัลในรูปแบบอื่น ๆ