
Ethereum Vs. Cardano: การเปรียบเทียบแบบครบถ้วน
ทั้งนักลงทุนมากประสบการณ์และผู้ใช้งานทั่วไปต่างหันมาให้ความสนใจกับเครือข่ายบล็อกเชนชื่อดังสองเครือข่ายอย่าง Ethereum และ Cardano ผู้เชี่ยวชาญชอบนำทั้งสองมาเปรียบเทียบกัน เนื่องจากผู้ก่อตั้งมีความเกี่ยวพันกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้เหรียญประจำเครือข่ายของทั้งคู่ก็เป็นที่แพร่หลายในหมู่ผู้ใช้ กลายเป็นเหรียญยอดนิยมบางส่วนของตลาด
อะไรคือความเหมือนและความต่างของผู้เล่นคนสำคัญทั้งสอง? บทความนี้มีคำตอบแบบเจาะลึกให้ครบ
Ethereum (ETH) คืออะไร?
เมื่อเทคโนโลยีบล็อกเชนยกระดับวิธีประมวลผลธุรกรรม Ethereum จึงกลายเป็นคริปโตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตัวหนึ่ง ETH ถูกสร้างในปี 2015 โดย Vitalik Buterin นักวิจัยคริปโตสัญชาติแคนาดา–รัสเซีย เขาให้เหตุผลว่าเครือข่าย Bitcoin ต้องการภาษาสคริปต์แบบใหม่เพื่ออินเทอร์เน็ตที่เสรีขึ้น แตกต่างจาก BTC ที่เป็นเพียงสกุลเงินดิจิทัล Ethereum ทำหน้าที่เหมือนคอมพิวเตอร์ยักษ์หรือแพลตฟอร์มบล็อกเชน เหรียญประจำเครือข่ายคือ Ether (ETH)
จุดประสงค์หลักของการสร้าง Ethereum คือเป็นแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์อย่างเต็มรูปแบบที่สามารถสร้างแอปพลิเคชันและทำธุรกรรมได้โดยไม่มีตัวกลาง ช่วงแรก Ethereum ใช้อัลกอริทึม Proof of Work (PoW) ที่นักขุดทำหน้าที่ยืนยันธุรกรรมและรักษาความปลอดภัยเครือข่าย ต่อมาแพลตฟอร์มได้ปล่อย Ethereum 2.0 ทำให้บล็อกเชนหันมาใช้งานกระบวนการ PoS (Proof-of-Stake) ช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายระบบ (scalability) และลดการใช้พลังงาน ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ความสามารถของ smart contracts ถูกนำมาใช้ครั้งแรกบนเครือข่ายของ Ether ซึ่งสามารถรันอัลกอริทึมและแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนได้โดยไม่ต้องพึ่งบุคคลที่สาม เหรียญ Ether ทำหน้าที่เป็น “เชื้อเพลิง” ของเครือข่าย Ethereum ใช้เป็นวิธีชำระค่าพลังประมวลผล (gas)
Cardano (ADA) คืออะไร?
Cardano เป็นบล็อกเชนรุ่นที่สาม ก่อตั้งโดย Charles Hoskinson ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ในปี 2017 เครือข่ายใหม่นี้ตั้งเป้าแก้ปัญหาของคริปโตรุ่นแรกและรุ่นสองอย่าง Bitcoin และ Ethereum ซึ่งมีข้อจำกัดหลายอย่าง Cardano จึงมุ่งเน้นความปลอดภัย ความสามารถในการขยายระบบ และความง่ายต่อการยอมรับใช้งาน
เหรียญประจำเครือข่าย Cardano คือ ADA การแบ่งชั้นการทำงานของคริปโตนี้เรียกว่า epochs แยกระหว่างกระบวนการบันทึกธุรกรรมกับการประมวลผล smart contracts นอกจากนี้ Cardano ยังรองรับการทำงานร่วมกัน (interoperability) กับบล็อกเชนและระบบการเงินอื่นๆ
หัวใจของ ADA คือกลไกฉันทามติที่ชื่อ Ouroboros ซึ่งพัฒนาบนพื้นฐาน Proof-of-Stake เพื่อความปลอดภัยของเครือข่ายและประสิทธิภาพด้านพลังงาน Cardano มีแนวทางพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยงานวิจัย การอัปเดตเครือข่ายจึงผ่านการทบทวนโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (peer review)
Cardano ยังมีการกระจายศูนย์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ถือ ADA มีส่วนร่วมโดยตรงในข้อเสนอเปลี่ยนแปลงโปรโตคอลและการตัดสินใจด้านเงินทุน เพิ่มการมีส่วนร่วมและการกำกับของชุมชน ทำให้การดำเนินงานมีความเป็นประชาธิปไตยและครอบคลุม

Ethereum vs Cardano: ความแตกต่างสำคัญ
มาดูความต่างหลักๆ ของสองเครือข่ายชื่อดังนี้กัน
ความเร็วในการทำธุรกรรม
-
ปัจจัยนี้สำคัญทั้งสำหรับผู้หลงใหลในคริปโตและนักลงทุนมืออาชีพ เพราะกระทบทั้ง “ความเร็ว” และ “ความถี่” ของธุรกรรม Ethereum ปัจจุบันประมวลผลได้ราว 20–30 ธุรกรรมต่อวินาที (TPS) หลังการเปลี่ยนผ่านสู่ Ethereum 2.0 มีแผนไปให้ถึง 100,000 TPS ผ่านการขยายระบบ ซึ่งตามทฤษฎีเกิดขึ้นได้จากการเปลี่ยนจาก PoW มาเป็น PoS
-
Cardano ถูกออกแบบให้ “อัปเกรด” จากแนวคิดของ Ethereum ตั้งแต่ต้น โดยสามารถประมวลผลได้ประมาณ 250 TPS อาศัยกลไกฉันทามติ Ouroboros ที่ออกแบบมาเพื่ออัตราการรับส่งข้อมูลที่สูงขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
ค่าธรรมเนียม (Fees)
- ค่าธรรมเนียมเป็นอีกจุดต่างที่สำคัญของ Ethereum และ Cardano ซึ่งกระทบทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้ Gas fee ของ Ethereum ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของธุรกรรมและภาระงานของเครือข่ายในขณะนั้น จึงมัก “แพง” เพราะเครือข่ายยุ่งตลอด
ความท้าทายนี้ผลักดันให้เกิดโซลูชันต่างๆ เช่น Ethereum 2.0 และเทคโนโลยี Layer 2 อย่าง Optimistic Rollups และ zk-Rollups
- Cardano มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าและคาดการณ์ได้ง่ายกว่า โปรโตคอล Ouroboros เพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและต้นทุน จึงดึงดูดผู้ใช้ที่มองหาโซลูชันต้นทุนต่ำ
ปัจจัยสำคัญในการซื้อคริปโตคือ exchange ที่คุณใช้เทรด Cryptomus P2P exchange มีค่าคอมมิชชันต่ำเพียง 0.1% สำหรับผู้ใช้ คุณสามารถอ่านขั้นตอนเทรดแบบ P2P เพิ่มเติมได้ที่นี่
ความสามารถของ Smart Contract
-
Ethereum มีโครงสร้างพื้นฐาน smart contract ที่แข็งแกร่งและแพร่หลาย รองรับ dApps และ DeFi จำนวนมาก นักลงทุนสามารถสร้าง smart contract ที่เชื่อถือได้ในสภาพแวดล้อมยืดหยุ่นอย่าง Ethereum Virtual Machine (EVM)
-
ความสามารถ smart contract ของ Cardano ยัง “ใหม่กว่า” เมื่อเทียบกับ Ethereum แพลตฟอร์ม Plutus เน้นความปลอดภัยและการพิสูจน์ถูกต้องเชิงรูปแบบ (formal verification) ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเขียนโค้ดที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น แม้ยังไม่แพร่หลายเท่า แต่มีศักยภาพเติบโตสูงในอนาคต
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
-
การอัปเกรดของ Ethereum สู่ Proof-of-Stake ลดการใช้พลังงานลงอย่างมากเมื่อเทียบกับ Proof of Work เดิม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ “green blockchain”
-
Cardano ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความยั่งยืนตั้งแต่ต้น อัลกอริทึม PoS อย่าง Ouroboros มีประสิทธิภาพด้านพลังงานสูง ทำให้ Cardano เป็นตัวเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
Ethereum vs Cardano: ควรซื้ออะไรดีกว่า?
แม้จะแตกต่างกัน แต่เครือข่ายของ ETH และ ADA ก็มีส่วนที่เหมือนกันมาก เช่น ทั้งคู่รองรับ staking มีการใช้พลังงานน้อยกว่า Bitcoin และเหรียญแบบ PoW อื่นๆ ทั้งสองใช้ smart contracts และรองรับการสร้าง dApps
นอกจากนี้คุณยังสามารถเทรดสินทรัพย์ทั้งสองบนคริปโตเอ็กซ์เชนจ์ต่างๆ หรือเก็บไว้ในกระเป๋าเงิน (wallets) ได้เหมือนคริปโตอื่นๆ
คุณสามารถเลือก Cryptomus เป็นผู้ให้บริการกระเป๋าเงินคริปโต กระเป๋า Cryptomus เป็นแบบ custodial จึงไม่ต้องกังวลหากทำ private key หายหรือพบปัญหาอื่นๆ คุณสามารถติดต่อทีมช่วยเหลือได้เสมอ และด้วยอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย คุณจึงใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
เมื่อเราไล่ดูทั้งความเหมือนและความต่างแล้ว มาสรุปกันว่า “ควรซื้อเหรียญไหนดีกว่า?”
-
Ethereum เป็นคริปโตอันดับสองตามมูลค่าตลาดและเป็นผู้นำด้านบล็อกเชน มีระบบนิเวศที่ค่อนข้างก้าวหน้า เต็มไปด้วยความร่วมมือและพาร์ตเนอร์ การเปลี่ยนผ่านสู่ Ethereum 2.0 ยังแสดงให้เห็นพัฒนาการที่ชัดเจน แต่ผู้ลงทุนควรพร้อมรับความผันผวนและการแข่งขันในการเทรดบนเอ็กซ์เชนจ์
-
Cardano เป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าตื่นเต้นเพราะแนวทางเฉพาะตัว เน้นความยั่งยืน การขยายระบบ และการทำงานร่วมกัน ในฐานะคริปโตที่ยังใหม่และทำกำไรได้ อาจมีศักยภาพการเติบโตสูง แต่ก็มีความเสี่ยงจากข้อจำกัดด้านการพัฒนาและการแข่งขันกับคริปโตอื่นๆ
เช่นเคย การตัดสินใจว่าระหว่าง Ethereum กับ Cardano ควรซื้ออะไร ขึ้นกับ “เป้าหมายการลงทุนของแต่ละคน” สภาพตลาด และความต้องการส่วนบุคคล/ธุรกิจของคุณ
Ethereum vs Cardano: เปรียบเทียบแบบตัวต่อตัว
| Feature | Ethereum | Cardano | |
|---|---|---|---|
| Invention Year | Ethereum2015 | Cardano2017 | |
| Consensus Mechanism | EthereumProof of Stake (PoS) | CardanoOuroboros, Proof of Stake (PoS) | |
| Transaction Speed | Ethereum~15 TPS (current) | Cardano~250 TPS | |
| Fees | EthereumHigher, variable gas fees | CardanoLower, predictable fees | |
| Smart Contract | EthereumMature, widely adopted | CardanoNewer, focused on security | |
| Development | EthereumFast, adaptable | CardanoMethodical, research-driven | |
| Ecosystem | EthereumLarge, diverse | CardanoGrowing, focused on real-world applications | |
| Environmental Impact | EthereumImproved with PoS | CardanoEnergy-efficient from the start |
ท้ายที่สุด “อาจไม่จำเป็น” ต้องตัดสินว่าใครดีกว่า เพราะแต่ละเครือข่ายมีข้อดี–ข้อจำกัดต่างกัน การเลือกขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของคุณ คุณสามารถซื้อคริปโตใดๆ ได้บนแพลตฟอร์ม Cryptomus P2P
ขอบคุณที่ติดตาม! คุณคิดอย่างไรกับความแตกต่างระหว่าง ADA และ ETH? แชร์ความเห็นของคุณในคอมเมนต์กันได้เลย
ให้คะแนนบทความ




ความคิดเห็น
0
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อโพสต์ความคิดเห็น