บิตคอยน์: สินทรัพย์เงินเฟ้อหรือเงินฝืด?

ลองจินตนาการว่าคุณถือครองสินทรัพย์ที่ท้าทายกฎเกณฑ์การเงินแบบดั้งเดิม สินทรัพย์ที่ไม่ถูกพิมพ์ออกมาอย่างไม่รู้จบ หรือถูกควบคุมด้วยนโยบายที่เปลี่ยนไปตามอำเภอใจ สินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก จนชื่อของมันกลายเป็นสัญลักษณ์ของ “ทองคำดิจิทัล” ที่ส่งผลกระทบต่อการเงินโลกและจุดประกายการถกเถียงไปทั่วโลก

บิตคอยน์ (Bitcoin) คริปโตเคอร์เรนซีตัวแรกของโลก ยังคงดึงดูดความสนใจด้วยเทคโนโลยีที่ปฏิวัติวงการและมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตอกย้ำสถานะความเป็นผู้นำทางการเงินของมัน แต่บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่ “เงินฝืด (Deflationary)” จริงตามที่หลายคนอ้างหรือไม่? หรือจริง ๆ แล้วมันอยู่ในหมวดหมู่ที่ไม่เหมือนใครเลยกันแน่?

สินทรัพย์เงินเฟ้อ (Inflationary) และเงินฝืด (Deflationary) คืออะไร?

เริ่มจากพื้นฐานกันก่อน เพื่อจะเข้าใจจุดยืนพิเศษของบิตคอยน์ เราต้องรู้จักความแตกต่างของแนวคิดเรื่อง สินทรัพย์เงินเฟ้อ และ สินทรัพย์เงินฝืด ที่เป็นตัวกำหนดมูลค่าและมุมมองต่อเงินและการลงทุน

  • สินทรัพย์เงินเฟ้อ (Inflationary Asset): คือสินทรัพย์ที่ปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา มักทำให้มูลค่าการซื้อของเงินลดลง เช่น เงินเฟียต (Fiat Currency) อย่างดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งธนาคารกลางสามารถพิมพ์เพิ่มได้ตามต้องการ แม้จะเพิ่มปริมาณแต่ทำให้มูลค่าของแต่ละหน่วยลดลง

  • สินทรัพย์เงินฝืด (Deflationary Asset): คือสินทรัพย์ที่มีปริมาณจำกัดหรือมีแนวโน้มลดลง จึงมีความหายาก (Scarcity) ซึ่งมักทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อความต้องการมากขึ้น ตัวอย่างคลาสสิกคือทองคำ และบิตคอยน์ที่มีจำนวนสูงสุดถูกจำกัดไว้เพียง 21 ล้านเหรียญ ก็มักถูกเปรียบเทียบกับทองคำเช่นกัน

ดังนั้น บิตคอยน์อยู่ตรงไหนกันแน่? มาลองเจาะลึกกัน

Bitcoin: Inflationary Or Deflationary Asset?

บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์เงินฝืดหรือไม่?

คำตอบสั้น ๆ: ใช่ บิตคอยน์ถูกออกแบบมาให้เป็นสินทรัพย์เงินฝืดโดยตรง แต่เพื่อให้เข้าใจชัดเจน มาลองแยกอธิบายกัน

บิตคอยน์ทำงานบนระบบที่มี ปริมาณจำกัด ซึ่งถูกเขียนไว้ในโปรโตคอลของมัน โดยจะมีบิตคอยน์เพียง 21 ล้านเหรียญ เท่านั้นตลอดกาล นี่คือสิ่งที่ทำให้มันแตกต่างโดยสิ้นเชิงจากสินทรัพย์เงินเฟ้ออย่างเงินเฟียต ที่สามารถออกเพิ่มได้ตลอดเวลาโดยธนาคารกลาง

การออกบิตคอยน์ใหม่จะถูกควบคุมด้วยตารางเวลาที่แน่นอนผ่านกลไก Halving ซึ่งจะเกิดขึ้นประมาณทุก ๆ 4 ปี และลดรางวัลการขุดลงครึ่งหนึ่งทุกครั้ง ส่งผลให้การสร้างเหรียญใหม่ช้าลงเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป

แต่มันไม่ได้หยุดแค่เรื่องของปริมาณจำกัดเท่านั้น สิ่งที่ทำให้บิตคอยน์มีคุณสมบัติเงินฝืดจริง ๆ คือ พฤติกรรมของมันเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากมีเหรียญบางส่วนที่สูญหายไปจากกุญแจส่วนตัวที่ถูกลืม หรือกระเป๋าที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ปริมาณบิตคอยน์หมุนเวียนในตลาดจึงลดลงเรื่อย ๆ ซึ่งเพิ่มระดับความหายากให้มากขึ้นไปอีก เมื่อประกอบกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ก็ยิ่งผลักดันให้มูลค่าของบิตคอยน์สูงขึ้น ตอกย้ำความเป็นสินทรัพย์เงินฝืดของมัน

ดังนั้น บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์เงินฝืดหรือไม่? แน่นอน 100% ปริมาณของมันถูกจำกัดจริงหรือไม่? ใช่อย่างไม่ต้องสงสัย และคุณสมบัติพิเศษนี้ทำให้มันโดดเด่นในฐานะการลงทุนที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ต้องการสินทรัพย์ที่หายากและทนทานต่อเงินเฟ้อ

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้!

เนื้อหานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลและการศึกษาเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือทางกฎหมาย

ให้คะแนนบทความ

โพสต์ก่อนหน้าวิธีการรับชำระด้วย USDC บนเว็บไซต์ของคุณ
โพสต์ถัดไป5 ข้อผิดพลาดยอดฮิตของนักเทรดคริปโตมือใหม่

หากคุณมีคำถาม กรุณาฝากข้อมูลติดต่อไว้ แล้วเราจะติดต่อกลับหาคุณ

banner

ทำให้การเดินทางสู่ Crypto ของคุณง่ายขึ้น

อยากเก็บ ส่ง รับ เดิมพัน หรือซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีใช่ไหม? Cryptomus ทำได้ทุกอย่าง — สมัครและจัดการกองทุนคริปโทเคอร์เรนซีของคุณด้วยเครื่องมืออันแสนสะดวกของเรา

เริ่มต้นใช้งาน

banner

ความคิดเห็น

0