สเปรดในการเทรดคริปโตเคอร์เรนซีคืออะไร?

คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับ “สเปรด” ในการเทรดคริปโตหรือไม่? แม้แนวคิดนี้อาจดูซับซ้อน แต่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจเมื่อคุณก้าวเข้าสู่โลกการเทรด มาดูกันอย่างละเอียดว่าสเปรดคืออะไร ทำไมถึงสำคัญ และมันส่งผลต่อเทรดเดอร์อย่างไร

Spread คืออะไร?

ในคริปโต “สเปรด” หมายถึงส่วนต่างระหว่างราคา bid และราคา ask โดยราคา bid คือราคาสูงสุดที่ผู้ซื้อยินดีจะจ่าย ส่วนราคา ask คือราคาต่ำสุดที่ผู้ขายยินดีจะรับ พูดง่ายๆ คือ สเปรดคือช่องว่างระหว่างราคาซื้อและราคาขายของสินทรัพย์ ซึ่งสะท้อนถึงต้นทุนของการทำธุรกรรม

สูตรคำนวณสเปรดแบบง่ายคือ: Spread = Lowest ask price – Highest bid price

ยกตัวอย่างเช่น ราคาตลาดปัจจุบันของ Bitcoin เป็นดังนี้:

  • Highest bid price (ราคาซื้อ): $99,000
  • Lowest ask price (ราคาขาย): $99,100

ดังนั้น Spread = $99,100 – $99,000 = $100

หากคุณซื้อ 1 BTC ที่ราคา $99,100 และขายทันที คุณจะได้เพียง $99,000 ซึ่งหมายถึงคุณขาดทุน $100 แต่หากคุณรอจนตลาดเปลี่ยน โดยราคา bid ขยับขึ้นเป็น $100,000 และราคา ask เป็น $100,100 หากคุณขาย 1 BTC ที่ราคา bid ใหม่ $100,000 กำไรของคุณคำนวณได้ดังนี้: กำไร = ราคา bid ใหม่ – ราคา ask เดิม = $100,000 – $99,100 = $900

ดังนั้นสเปรดจะถูกนับรวมตั้งแต่คุณเข้าทำการซื้อขายครั้งแรก ตัวอย่างนี้จึงแสดงให้เห็นว่าการเข้าใจและคำนึงถึงสเปรดเป็นสิ่งสำคัญต่อการคำนวณกำไรที่แม่นยำ

ประเภทของ Spread

มีสเปรดหลายประเภท แต่ละแบบเชื่อมโยงกับลักษณะเฉพาะในตลาดคริปโต มาดูกัน

  1. Arbitrage spread. เกิดจากความแตกต่างของราคาคริปโตเดียวกันในแต่ละตลาดหรือแต่ละกระดาน เทรดเดอร์จะอาศัยจังหวะนี้ โดยซื้อในที่ที่ราคาต่ำกว่า และขายในที่ที่ราคาสูงกว่า เพื่อทำกำไรจากสเปรด

  2. Liquidity spread. หมายถึงความต่างของระดับ liquidity ในแต่ละกระดานหรือคู่เทรด โดยทั่วไปหากมีสภาพคล่องสูง สเปรดจะค่อนข้างแคบ แต่หากสภาพคล่องต่ำ สเปรดมักจะกว้างขึ้น

  3. Percentage spread. คำนวณจากส่วนต่างระหว่างราคา bid และราคา ask แล้วแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์เทียบกับราคาสินทรัพย์ วิธีนี้ช่วยให้เทรดเดอร์ประเมินต้นทุนสัมพัทธ์ของการเทรดสินทรัพย์ต่างๆ ได้รวดเร็ว โดยเฉพาะในตลาดที่ผันผวน

  4. Fixed spread. เป็นสเปรดที่ถูกกำหนดตายตัวไม่เปลี่ยนแปลงตามสภาพตลาด ความต่างของ bid และ ask ถูกตั้งไว้โดย broker ทำให้เทรดเดอร์มีต้นทุนที่คาดการณ์ได้ มักพบในโมเดล market maker ที่ broker กำหนดสเปรดเพื่อสร้างความมั่นคง

  5. Variable spread. เป็นสเปรดที่เปลี่ยนแปลงตามสภาพตลาด เช่น ความผันผวนหรือสภาพคล่อง โดยจะกว้างขึ้นในช่วงตลาดผันผวนและแคบลงในช่วงตลาดนิ่ง มักพบใน ECN หรือ STP broker ที่เทรดเดอร์เข้าถึงตลาดโดยตรง สเปรดชนิดนี้มีความยืดหยุ่นแต่ก็อาจสร้างต้นทุนสูงขึ้นในช่วงตลาดผันผวน

Spread

สเปรดมีผลต่อการเทรดอย่างไร?

สเปรดในคริปโตมีบทบาทสำคัญต่อหลายด้านของการเทรด ตั้งแต่ต้นทุนการทำธุรกรรมไปจนถึงกลยุทธ์การซื้อขาย ปัจจัยหลักที่ได้รับผลกระทบจากสเปรด ได้แก่:

  1. ต้นทุนการเทรด. ส่วนต่างระหว่าง bid และ ask คือ “ต้นทุนแฝง” ของการเทรด เมื่อซื้อที่ราคา ask และขายที่ราคา bid กำไรที่เป็นไปได้จะลดลง สเปรดที่กว้างยิ่งหมายถึงต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลหนักต่อเทรดเดอร์ที่เทรดบ่อยๆ เช่น day trader

  2. ตัวชี้วัดสภาพคล่อง. สเปรดสะท้อนถึงสภาพคล่องของตลาด หากสเปรดแคบ มักบ่งบอกว่าสภาพคล่องสูง มีคำสั่งซื้อขายจำนวนมากใกล้กับราคาปัจจุบัน เทรดเดอร์จึงสามารถทำคำสั่งใหญ่โดยไม่กระทบต่อราคา

  3. ความผันผวนของตลาด. สเปรดมักกว้างขึ้นในช่วงที่ตลาดผันผวน เทรดเดอร์มักเรียกร้อง premium สูงขึ้นเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่มากขึ้น ทำให้เกิดสเปรดที่กว้างขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาก่อนคำสั่งถูกดำเนินการ

  4. ประสิทธิภาพในการส่งคำสั่ง. สเปรดมีผลโดยตรงต่อราคาที่คำสั่งถูกจับคู่ สเปรดที่แคบช่วยให้ได้ราคาที่ใกล้ mid-price ของตลาดมากขึ้น ขณะที่สเปรดกว้างอาจทำให้คำสั่งถูกจับคู่ในราคาที่เสียเปรียบ

  5. ความสามารถในการทำกำไรของกลยุทธ์. กลยุทธ์ที่มุ่งทำกำไรจากการเคลื่อนไหวเล็กๆ ต้องอาศัยสเปรดที่แคบ หากสเปรดกว้างเกินไปกำไรเล็กๆ อาจถูกหักล้างไปหมด Market maker จะทำกำไรจากส่วนต่างของ bid-ask ดังนั้นสเปรดที่แคบทำให้ปริมาณการเทรดสูงขึ้นแต่กำไรต่อครั้งน้อยลง ส่วนสเปรดกว้างให้กำไรมากขึ้นต่อครั้งแต่ลดปริมาณการเทรด

  6. Slippage และการส่งคำสั่ง. Slippage คือความต่างระหว่างราคาที่คาดหวังกับราคาที่คำสั่งถูกดำเนินการ สเปรดที่กว้างเพิ่มโอกาสและขนาดของ slippage โดยเฉพาะกับ market order ขณะที่สเปรดแคบช่วยลด slippage ลง

  7. ผลกระทบต่อการลงทุนระยะยาว. สำหรับนักลงทุนระยะยาว สเปรดที่กว้างเพิ่มต้นทุนในการสะสม (ซื้อ) และกระจาย (ขาย) เหรียญในปริมาณมาก ส่งผลต่อผลตอบแทนรวมของพอร์ตการลงทุน การปรับสมดุลพอร์ตบ่อยๆ ในสินทรัพย์ที่มีสเปรดกว้าง อาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้นและลดผลลัพธ์ของกลยุทธ์ลงทุน

สเปรดเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของการเทรดคริปโตที่มีผลกระทบหลายด้าน เทรดเดอร์ควรคำนึงถึงปัจจัยนี้ในการสร้างแผนการเทรด เลือกกระดาน และจัดการความเสี่ยง การเข้าใจและติดตามสเปรดจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพของการเทรด

คุณสนุกกับบทความนี้หรือไม่? เป็นประโยชน์กับคุณหรือเปล่า? บอกเราผ่านคอมเมนต์ และอย่าลืมเช็กบทความเกี่ยวกับคริปโตอื่นๆ ได้ที่นี่!

เนื้อหานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลและการศึกษาเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือทางกฎหมาย

ให้คะแนนบทความ

โพสต์ก่อนหน้าการคาดการณ์ราคา Polygon: POL จะแตะ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้หรือไม่?
โพสต์ถัดไปวิธีการรับการชำระเงินด้วย DAI บนเว็บไซต์ของคุณ

หากคุณมีคำถาม กรุณาฝากข้อมูลติดต่อไว้ แล้วเราจะติดต่อกลับหาคุณ

banner

ทำให้การเดินทางสู่ Crypto ของคุณง่ายขึ้น

อยากเก็บ ส่ง รับ เดิมพัน หรือซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีใช่ไหม? Cryptomus ทำได้ทุกอย่าง — สมัครและจัดการกองทุนคริปโทเคอร์เรนซีของคุณด้วยเครื่องมืออันแสนสะดวกของเรา

เริ่มต้นใช้งาน

banner

ความคิดเห็น

0