
นักลงทุนญี่ปุ่นกำลังถอนตัวจากคริปโต และนี่คือเหตุผล
นักลงทุนชาวญี่ปุ่นกำลังลดการถือครองสกุลเงินดิจิทัลของตน และสาเหตุไม่ได้เป็นไปตามที่หลายคนคาดคิด ในขณะที่การอภิปรายระดับโลกมักเน้นเรื่องราคาและความผันผวนของตลาด การสำรวจกลับชี้ให้เห็นว่านักลงทุนญี่ปุ่นจำนวนมากถูกขัดขวางโดยข้อกำหนดด้านภาษีที่ซับซ้อนเป็นหลัก มากกว่าความผันผวนของตลาด
ผลกระทบจากแรงกดดันด้านภาษีต่อนักลงทุนญี่ปุ่น
กฎหมายภาษีของญี่ปุ่นถือว่าค่อนข้างเข้มงวด และผู้ถือครองสกุลเงินดิจิทัลมักพบว่าการปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ยากมาก การสำรวจระดับชาติ national survey โดยแพลตฟอร์มการเงิน 400F พบว่า 22.2% ของอดีตนักลงทุนคริปโตระบุว่าความซับซ้อนด้านภาษีเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้พวกเขาออกจากตลาด ส่วนความผันผวนของตลาดอยู่ที่ 19.4% ซึ่งแตกต่างจากแนวทางเรื่องราวที่มักเล่ากัน
กำไรจากคริปโตถูกจัดเป็น “รายได้ประเภทอื่น” ซึ่งอาจถูกเก็บภาษีสูงสุดถึง 55% หลังรวมภาษีท้องถิ่น ทุกธุรกรรมต้องถูกบันทึกเป็นเยน รวมถึงการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน และแม้แต่การโอนเล็กน้อย นักลงทุนบางรายใช้ซอฟต์แวร์อย่าง CryptoLinC หรือ Gtax แต่ก็ยังต้องตรวจสอบด้วยตนเอง โดยเฉพาะเมื่อโทเค็นถูกย้ายไปหลายวอลเล็ต
ด้วยเหตุนี้ งานเอกสารจึงกลายเป็นเรื่องยากไม่ต่างจากความเสี่ยงของตลาด ในกลุ่มนักลงทุนที่ยังคง active 61.4% กังวลเรื่องความผันผวนของราคา ขณะที่ 60% พบว่าภาษีก็สร้างความกดดันไม่แพ้กัน ความเครียดทางอารมณ์และงานเอกสารหนักหน่วงทั้งคู่
การสำรวจยังชี้ให้เห็นความแตกต่างของนักลงทุนที่คุ้นเคยกับบัญชี NISA หรือ iDeCo ซึ่งมีการรายงานง่าย นักลงทุนที่ใช้แอปอย่าง Rakuten Securities หรือ SBI จะพบว่าการยื่นภาษีคริปโตซับซ้อนและใช้เวลามากกว่าเมื่อเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มแบบกระจายอำนาจ
ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในกฎระเบียบที่ชัดเจน
แม้ว่าจะมีความหงุดหงิดอยู่บ้าง นักลงทุนญี่ปุ่นหลายคนไม่ได้หลีกเลี่ยงคริปโตทั้งหมด แต่กำลังรอกฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้น ประมาณ 70.6% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าความเสี่ยงที่ยอมรับได้อยู่ในระดับกลาง แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่สมดุล ประมาณ 40% ระบุว่าพวกเขาอาจลงทุนในคริปโตมากขึ้น หากกฎระเบียบของญี่ปุ่นเข้าใจง่ายขึ้น
ความระมัดระวังนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในฟอรั่มคริปโตญี่ปุ่น ผู้ใช้มักแชร์เคล็ดลับเกี่ยวกับธุรกรรม เช่น การสลับข้ามเชน (cross-chain swaps) รางวัลจากการ staking หรือการขาย NFT การสนทนาเหล่านี้แสดงให้เห็นว่านักลงทุนอิงคำแนะนำจากชุมชนเมื่อคำแนะนำทางการไม่ชัดเจน
ข่าวดีคือ นักวิเคราะห์สื่อบางรายแนะนำว่า อาจมีการปฏิรูปภาษี เร็วกว่าเดิม แม้ยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ก็สร้างความมองโลกในแง่ดีแบบระมัดระวัง
แหล่งข้อมูลคริปโตของนักลงทุนญี่ปุ่น
แหล่งข้อมูลที่นักลงทุนคริปโตญี่ปุ่นพึ่งพานั้นหลากหลายมาก ผลการสำรวจระบุว่า 63% ใช้สื่อทางการหรือผู้เชี่ยวชาญ ขณะที่ 58.9% ปรึกษาผ่านโซเชียลมีเดียและอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งสะท้อนแนวโน้มกว้างขึ้นว่านักลงทุนให้ความสำคัญกับข้อมูลที่ถูกต้องและตรวจสอบได้ แต่ก็ยังได้รับอิทธิพลจากบทสนทนาออนไลน์และประสบการณ์ที่แชร์กัน
ดังนั้น ข้อมูลจาก exchange เว็บไซต์รัฐบาล และที่ปรึกษาทางการเงิน มักถูกผนวกกับข้อมูลเชิงลึกจาก X หรือ Reddit สื่อกระแสหลักครอบคลุมเรื่องกฎระเบียบ ขณะที่ช่องทางโซเชียลช่วยเรื่องปฏิบัติ เช่น การรายงานการเทรดเล็กๆ การใช้เครื่องมือภาษี หรือการจัดการค่าธรรมเนียมที่ไม่คาดคิด
ผลกระทบต่อตลาดคริปโต
การถอนตัวของนักลงทุนญี่ปุ่นอย่างค่อยเป็นค่อยไปมีแนวโน้มสร้างแรงกดดันต่อราคาคริปโตทั่วโลก ในขณะเดียวกัน สภาพคล่องใน exchange ญี่ปุ่นอาจลดลง เนื่องจากมีนักเทรดท้องถิ่นเข้าร่วมกิจกรรมลดลง การลดสภาพคล่องภายในประเทศนี้อาจทำให้การเทรดบนแพลตฟอร์มในประเทศทำได้ยากขึ้น แม้ว่าตลาดโลกยังคงค่อนข้างเสถียรก็ตาม
สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าปัจจัยเฉพาะของญี่ปุ่น เช่น กฎระเบียบด้านภาษี ภาระการรายงาน และกฎที่ไม่ชัดเจน สามารถส่งผลโดยตรงต่อการเคลื่อนไหวของตลาดคริปโตโลก
เป็นที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่ากิจกรรมคริปโตในญี่ปุ่นถูกกำหนดโดยความชัดเจนด้านกฎระเบียบและความสะดวกในการบริหารจัดการมากกว่าความผันผวนของตลาด แม้ว่าความผันผวนยังเป็นเรื่องที่น่ากังวล ภาษีซับซ้อนและกฎไม่ชัดเจนกลับมีอิทธิพลมากกว่า หากหน่วยงานกำกับดูแลทำให้การรายงานง่ายขึ้นและปรับอัตราภาษี การมีส่วนร่วมอาจเพิ่มขึ้นอีกครั้งได้อย่างรวดเร็ว
ให้คะแนนบทความ




ความคิดเห็น
0
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อโพสต์ความคิดเห็น