จะทำกำไรจากการเทรดคริปโตได้อย่างไร?

นักลงทุนคริปโตทุกคนต่างก็มีช่วงเวลาที่สงสัยว่า “จะทำอย่างไรให้สินทรัพย์ดิจิทัลทำงานและสร้างผลตอบแทนให้กับเราได้บ้าง” และนี่คือจุดที่การเทรดเข้ามามีบทบาท เพราะเป็นหนึ่งในวิธีสำคัญที่ช่วยสร้างกำไรจากการลงทุนคริปโตได้หลากหลายแนวทาง

วันนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับกลยุทธ์การทำกำไรที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพที่สุด เพื่อช่วยให้คุณเลือกเส้นทางที่เหมาะสมกับตัวเองได้ง่ายขึ้น

กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการทำกำไรจากคริปโต

การทำกำไรผ่านการเทรดคริปโตต้องอาศัยการรับมือกับตลาดที่มีความผันผวนสูงและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมและบริหารความเสี่ยงอย่างมีวินัย การเทรดคริปโตสามารถสร้างกำไรได้อย่างมหาศาล

ผู้เทรดจำเป็นต้องเข้าใจอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค คาดการณ์แนวโน้มของตลาด และอัปเดตสถานการณ์โลกที่อาจส่งผลต่อราคาคริปโตอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังควรใช้กลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น ปรับตัวได้ตามสภาพตลาดดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

ดังนั้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การเลือกใช้วิธีการเทรดที่พิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพและเหมาะกับเป้าหมายการลงทุนของคุณคือสิ่งสำคัญที่สุด

ในบทความนี้ เราได้รวบรวม 5 กลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมและใช้กันมากที่สุด ได้แก่

  1. Crypto Arbitrage (อาร์บิทราจคริปโต)
  2. Day Trading (เดย์เทรด)
  3. Trading Bots (บอทเทรด)
  4. การลงทุนในโปรเจกต์ที่มีมาร์เก็ตแคปต่ำ
  5. Dollar-Cost Averaging (DCA)

Crypto Arbitrage

Crypto arbitrage คือกลยุทธ์การเทรดที่ใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของราคาของเหรียญเดียวกันในแต่ละกระดานเทรด เพื่อสร้างกำไร ตลาดคริปโตแตกต่างจากตลาดการเงินแบบดั้งเดิมเพราะมีการทำงานแบบกระจายศูนย์ เปิดตลอด 24/7 และมีราคาที่แตกต่างกันระหว่างแต่ละแพลตฟอร์มอยู่บ่อยครั้ง

ประเภทของกลยุทธ์ Arbitrage ได้แก่:

  1. Spatial arbitrage – ใช้ความต่างของราคาบนกระดานเทรดที่ต่างกัน
  2. Triangular arbitrage – ใช้ช่องว่างของราคาภายในกระดานเดียว โดยอาศัยคู่เทรด 3 คู่เพื่อหมุนเวียนกลับมาได้กำไร
  3. Statistical arbitrage – ใช้โมเดลทางคณิตศาสตร์และอัลกอริทึม เพื่อหาความผิดปกติของราคาโดยอิงจากสถิติและข้อมูลย้อนหลัง

ตัวอย่าง:

  • ถ้า บิทคอยน์ (BTC) อยู่ที่ $90,000 บน Exchange A และ $90,500 บน Exchange B ผู้เทรดสามารถซื้อจาก A แล้วขายที่ B เพื่อทำกำไร $500 (หลังหักค่าธรรมเนียม)
  • Triangular arbitrage อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ BTC แปลงเป็น ETH แล้ววนกลับมาเป็นดอลลาร์ โดยมีกำไรส่วนต่าง
  • Statistical arbitrage ใช้ความสัมพันธ์ของราคา เช่น Litecoin (LTC) และ Bitcoin Cash (BCH) ที่มักจะเคลื่อนไหวคู่กัน เมื่อราคาห่างกันมากเกินไป ก็เข้าซื้อและขายสวนทางเพื่อเก็บกำไร

Day Trading

Day trading คือการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลภายในวันเดียว เพื่อเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาระยะสั้น กลยุทธ์นี้ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูงและการตัดสินใจที่รวดเร็ว

ตัวอย่าง: หากผู้เทรดสังเกตว่าบิทคอยน์มีแนวโน้มขึ้นเพราะข่าวบวกจากการลงทุนสถาบัน เขาซื้อ BTC ที่ $90,000 และขายที่ $91,000 ภายในวันเดียว กำไรที่ได้คือ $2,000 (หักค่าธรรมเนียมแล้ว)

Trading Bots

Trading bots คือโปรแกรมอัตโนมัติที่ทำการซื้อขายตามอัลกอริทึมที่ตั้งไว้ล่วงหน้า บอทสามารถทำงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องพึ่งพามนุษย์

ตัวอย่าง: บอท HFT (High-Frequency Trading) สามารถตรวจจับความต่างของราคา ETH/USDT เพียง 0.05% และทำการซื้อ-ขายนับพันครั้งต่อวินาที แต่ละดีลมีกำไรเพียงไม่กี่เซ็นต์ แต่เมื่อรวมกันแล้วสามารถสร้างกำไรจำนวนมากได้

การลงทุนในโปรเจกต์ที่มีมาร์เก็ตแคปต่ำ

การลงทุนในเหรียญหรือโปรเจกต์ที่มีมาร์เก็ตแคปต่ำมีความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงเช่นกัน เนื่องจากหากโปรเจกต์เติบโตและได้รับการยอมรับ ราคาของเหรียญอาจพุ่งขึ้นหลายเท่า

ตัวอย่าง: ลงทุน $5,000 ในโทเค็น EcoToken ที่มาร์เก็ตแคป $10M ที่ราคา $1 ต่อโทเค็น ได้มา 5,000 โทเค็น เมื่อโปรเจกต์เติบโตและราคาเพิ่มเป็น $2 การลงทุนนี้จะมีมูลค่า $10,000 กำไรสุทธิ $5,000

Dollar-Cost Averaging (DCA)

DCA คือการทยอยลงทุนจำนวนคงที่เป็นประจำ เช่น ลงทุน $500 ในบิทคอยน์ทุกเดือน ไม่ว่าราคาจะเป็นเท่าไร วิธีนี้ช่วยเฉลี่ยความเสี่ยงและลดผลกระทบจากความผันผวน

ตัวอย่าง: หากลงทุน $500 ต่อเดือนเป็นเวลา 6 เดือน คุณจะได้บิทคอยน์รวมประมาณ 0.1416 BTC ด้วยต้นทุนเฉลี่ย $91,164 ต่อ BTC หากราคาพุ่งไป $100,000 คุณจะได้กำไรชัดเจนจากกลยุทธ์นี้

สรุป

การทำกำไรจากการเทรดคริปโตต้องอาศัยการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ไม่ว่าจะเป็น Arbitrage, Day Trading, ใช้บอท, ลงทุนในโปรเจกต์ที่มาร์เก็ตแคปต่ำ หรือใช้วิธี DCA แต่ละวิธีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย

สิ่งสำคัญที่สุดคือการมีวินัยด้านการบริหารความเสี่ยง และเลือกใช้เครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการการลงทุนได้อย่างมั่นใจ

คุณคิดว่ากลยุทธ์ไหนเหมาะกับคุณที่สุด? เคยลองใช้วิธีเหล่านี้แล้วหรือยัง? มาคุยกันในคอมเมนต์ด้านล่างได้เลย!

เนื้อหานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลและการศึกษาเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือทางกฎหมาย

ให้คะแนนบทความ

โพสต์ก่อนหน้าวิธียอมรับการชำระเงินด้วย DASH บนเว็บไซต์ของคุณ
โพสต์ถัดไปAltcoins vs Meme Coins: ความแตกต่างคืออะไร?

หากคุณมีคำถาม กรุณาฝากข้อมูลติดต่อไว้ แล้วเราจะติดต่อกลับหาคุณ

banner

ทำให้การเดินทางสู่ Crypto ของคุณง่ายขึ้น

อยากเก็บ ส่ง รับ เดิมพัน หรือซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีใช่ไหม? Cryptomus ทำได้ทุกอย่าง — สมัครและจัดการกองทุนคริปโทเคอร์เรนซีของคุณด้วยเครื่องมืออันแสนสะดวกของเรา

เริ่มต้นใช้งาน

banner

ความคิดเห็น

0