Ethereum: สินทรัพย์เงินเฟ้อหรือเงินฝืด?

Ethereum เป็นหนึ่งในบล็อกเชนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มันไม่ได้ถูกพูดถึงเพียงแค่ในฐานะแพลตฟอร์มสากลสำหรับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) เท่านั้น แต่ยังถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนอีกด้วย หลายคนจึงตั้งคำถามว่า: Ethereum เป็นสินทรัพย์แบบเงินเฟ้อ (Inflationary) หรือเงินฝืด (Deflationary)? คำตอบของคำถามนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาหรือเพิ่มพูนความมั่งคั่งด้วยการลงทุนใน ETH

มาลองวิเคราะห์กันว่า กลไกการออกเหรียญ (issuance) และการเผาเหรียญ (burn mechanism) ของ Ethereum ทำงานอย่างไร และมีผลต่อมูลค่าของมันอย่างไรบ้าง

สินทรัพย์เงินเฟ้อ (Inflationary) และเงินฝืด (Deflationary) คืออะไร?

ก่อนที่จะเข้าไปเจาะลึก Ethereum เราต้องเข้าใจก่อนว่าสินทรัพย์เงินเฟ้อและเงินฝืดหมายถึงอะไร

สินทรัพย์เงินเฟ้อ (Inflationary Asset) คือสินทรัพย์ที่มีอุปทานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา ในมุมมองเศรษฐศาสตร์แบบดั้งเดิม เงินเฟ้อมักจะเชื่อมโยงกับการลดลงของอำนาจซื้อ เนื่องจากการมีอุปทานที่มากเกินไปย่อมทำให้มูลค่าของแต่ละหน่วยลดลง ตัวอย่างของสินทรัพย์เงินเฟ้อก็คือสกุลเงินเฟียตที่ออกโดยธนาคารกลาง

สินทรัพย์เงินฝืด (Deflationary Asset) คือสินทรัพย์ที่มีอุปทานลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ความขาดแคลนนี้ทำให้มูลค่าของสินทรัพย์นั้นเพิ่มขึ้นตามธรรมชาติ ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือ Bitcoin ที่มีการจำกัดจำนวนเหรียญสูงสุดไว้ที่ 21 ล้านเหรียญ

Ethereum เป็นกรณีที่ไม่เหมือนใคร เพราะโมเดลทางเศรษฐกิจของมันผสมผสานทั้งองค์ประกอบของเงินเฟ้อและเงินฝืด โดยขึ้นอยู่กับกิจกรรมในเครือข่ายและ กลไกการเผาเหรียญ (coin-burning mechanism) ซึ่งเป็นกระบวนการที่นำเหรียญบางส่วนออกจากการหมุนเวียนอย่างถาวร ส่งผลให้เกิดแรงกดดันในเชิงเงินฝืด เรามาดูกันว่าในกรณีของ Ethereum กลไกนี้ทำงานอย่างไร

Ethereum: Inflationary Or Deflationary Asset?

Ethereum เป็นสินทรัพย์เงินฝืดหรือไม่?

ก่อนการอัปเกรด EIP-1559 Ethereum ไม่มีการกำหนดเพดานอุปทานที่แน่นอน ทำให้ถูกจัดว่าเป็นสินทรัพย์เงินเฟ้อ ทุก ๆ บล็อกใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นจะมีการออก ETH ใหม่เข้าสู่ระบบ เพิ่มจำนวนเหรียญที่หมุนเวียนอยู่ แตกต่างจาก Bitcoin ที่มีการจำกัดจำนวนไว้ตายตัวที่ 21 ล้านเหรียญ

แต่หลังจากการอัปเกรด EIP-1559 ในปี 2021 สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป การอัปเกรดนี้ได้เพิ่มกลไกการเผาเหรียญ โดยส่วนหนึ่งของค่าธรรมเนียมธุรกรรมจะถูกทำลาย (burn) ส่งผลให้อุปทานของ ETH ในการหมุนเวียนลดลง อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงนี้ Ethereum ก็ยังไม่มีเพดานอุปทานที่ตายตัวเหมือน Bitcoin

ดังนั้น Ethereum จึงไม่ได้เป็น สินทรัพย์ที่มีอุปทานคงที่ (Fixed Supply) และไม่ใช่สินทรัพย์เงินฝืดโดยธรรมชาติ แต่ด้วยกลไกการเผาเหรียญที่ทำงานในช่วงที่เครือข่ายมีการใช้งานสูง อุปทานของ ETH สามารถลดลงได้ ในขณะเดียวกัน หากเครือข่ายมีการใช้งานต่ำ อุปทานก็อาจเพิ่มขึ้น ทำให้ Ethereum ถูกมองได้ทั้งในมุมเงินเฟ้อและเงินฝืด อย่างไรก็ตาม ต้องเน้นว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมา อุปทานรวมของ ETH คงที่อยู่ที่ราว ๆ 120 ล้านเหรียญ ซึ่งสะท้อนถึงลักษณะเงินฝืดของ Ethereum ในปัจจุบัน

ดังนั้น Ethereum จึงเป็นสินทรัพย์ที่ปรับตัวตามสภาวะตลาด โดยอาศัยสมดุลระหว่างการออกเหรียญใหม่กับการเผาเหรียญเพื่อกำหนดโมเดลเศรษฐกิจ สำหรับนักลงทุน นี่หมายความว่ามูลค่าของ ETH จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน โดยเฉพาะกิจกรรมการใช้งานในเครือข่าย ทำให้ ETH เป็นสินทรัพย์ที่มีโอกาสสร้างกำไรได้ แต่ก็มีความเสี่ยงไม่น้อยสำหรับการลงทุนระยะยาว

เนื้อหานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลและการศึกษาเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือทางกฎหมาย

ให้คะแนนบทความ

โพสต์ก่อนหน้าวิธีการขุด BCH
โพสต์ถัดไปCirculating Supply ในคริปโตคืออะไร?

หากคุณมีคำถาม กรุณาฝากข้อมูลติดต่อไว้ แล้วเราจะติดต่อกลับหาคุณ

banner

ทำให้การเดินทางสู่ Crypto ของคุณง่ายขึ้น

อยากเก็บ ส่ง รับ เดิมพัน หรือซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีใช่ไหม? Cryptomus ทำได้ทุกอย่าง — สมัครและจัดการกองทุนคริปโทเคอร์เรนซีของคุณด้วยเครื่องมืออันแสนสะดวกของเรา

เริ่มต้นใช้งาน

banner

ความคิดเห็น

0