ความแตกต่างระหว่างกระเป๋าเงินคริปโต (Crypto Wallet) กับ Exchange

ผู้เริ่มต้นมักจะสับสนเกี่ยวกับทั้งสองสิ่งนี้ ความแตกต่างระหว่างกระเป๋าเงินคริปโตและการแลกเปลี่ยนคืออะไร? หน้าที่ของแต่ละอย่างคืออะไร? จะใช้งานอย่างไร? การเก็บคริปโตไว้ในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนกับในกระเป๋าเงินอย่างไหนปลอดภัยกว่ากัน? มาหาคำตอบกัน กระเป๋าเงินคริปโต vs การแลกเปลี่ยน – ศึกเริ่มต้นแล้ว

แพลตฟอร์มการซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตคืออะไร

แพลตฟอร์มการซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตใช้สำหรับซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ที่นี่ผู้ใช้สามารถฝากเงินสกุลเงินปกติเพื่อซื้อสินทรัพย์คริปโตได้ คุณยังสามารถแปลงสกุลเงินคริปโตกลับเป็นเงินปกติและเก็บไว้ในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนหรือถอนเข้าบัญชีธนาคารของคุณได้ นอกจากนี้ยังสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งเป็นอีกสกุลหนึ่งได้

เพื่อเริ่มซื้อ ขาย หรือแปลงสกุลเงิน ขั้นแรกให้สร้างบัญชี แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตมักจะมีเว็บกระเป๋าเงินคริปโตที่สะดวกให้ผู้ใช้ โดยพื้นฐานแล้วคุณสามารถมองว่าการแลกเปลี่ยนเป็นเหมือนธนาคารดิจิทัลสำหรับคริปโตเคอร์เรนซี ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของการแลกเปลี่ยนคือเรื่องความปลอดภัย หากผู้ใช้สูญเสียการเข้าถึงบัญชีแลกเปลี่ยน ก็จะสูญเสียการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย

ระดับความปลอดภัย

แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตส่วนใหญ่เป็นแบบกระจายศูนย์ ดังนั้นจึงไม่มีสถาบันกลางที่สามารถค้ำประกันและปกป้องเงินทุนของคุณเหมือนกับธนาคารที่ถูกควบคุมโดยรัฐบาล บ่อยครั้งแพลตฟอร์มเหล่านี้ตกเป็นเป้าหมายของแฮ็กเกอร์

อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มบางแห่งมีการประกันภัยให้กับผู้ใช้ หากเงินถูกขโมยโดยแฮ็กเกอร์หรือมิจฉาชีพ ผู้ใช้จะได้รับการชดเชย แพลตฟอร์มที่ไม่มีประกันจะใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยของตนเอง

ความปลอดภัยของแพลตฟอร์มควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของคุณ ไม่ว่าคุณจะวางแผนเก็บเงินไว้นานแค่ไหน ควรตรวจสอบเสมอว่ามีสินทรัพย์เก็บไว้แบบออฟไลน์เท่าไร เพราะเมื่อมูลค่าคริปโตสูงขึ้น การโจมตีจากแฮ็กเกอร์ก็เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ แพลตฟอร์มเหล่านี้ยังมีวิธีป้องกันอื่น ๆ เช่น รหัส PIN หรือการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA)

ตัวเลือก

องค์ประกอบหลัก 3 ส่วนของแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต:

• โบรกเกอร์ ที่กำหนดราคาคริปโต
• แพลตฟอร์มการซื้อขาย ช่วยให้ผู้ซื้อและผู้ขายพบกัน โดยมักจะมีค่าธรรมเนียมสำหรับบริการ
• การซื้อขายโดยตรง ช่วยให้ผู้ใช้ตั้งราคาของตนเองได้ เพราะไม่มีราคากลางตายตัว

กระเป๋าเงินคริปโตคืออะไร?

กระเป๋าเงินคริปโตคือซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์พิเศษที่ใช้เก็บสินทรัพย์คริปโต กระเป๋าที่ใช้ซอฟต์แวร์เรียกว่า “กระเป๋าร้อน” (Hot Wallet) และกระเป๋าที่เป็นอุปกรณ์แยกต่างหากเรียกว่า “กระเป๋าเย็น” (Cold Wallet) ผู้ใช้สามารถเลือกประเภทที่ตรงกับความต้องการและความชอบของตน

กระเป๋าเงินจะเก็บกุญแจสองชนิด: กุญแจสาธารณะ (Public Key) และกุญแจส่วนตัว (Private Key) กุญแจสาธารณะใช้ระบุตัวตนและเข้ารหัสธุรกรรม สามารถแชร์กับผู้อื่นเพื่อรับเงิน ส่วนกุญแจส่วนตัวใช้ถอดรหัสธุรกรรม ห้ามเปิดเผยกุญแจนี้ เพราะอาจทำให้สูญเสียเงินได้

ระดับความปลอดภัย

เมื่อวิธีการแฮ็กพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เราจึงต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอันดับแรก เพื่อลดความเสี่ยง ควรทำตามคำแนะนำต่อไปนี้:

• หลีกเลี่ยงการใช้ Wi-Fi สาธารณะ
• กระจายการลงทุน โดยใช้หลายกระเป๋าเพื่อลดความเสี่ยง
• เปิดใช้งาน 2FA เพื่อเพิ่มการป้องกัน
• สำรองข้อมูลเป็นประจำ โดยเฉพาะกุญแจส่วนตัว

ตัวเลือก

กระเป๋าเงินซอฟต์แวร์คือเว็บไซต์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ให้คุณเก็บเงินได้เมื่อมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ส่วนกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์จะเก็บกุญแจส่วนตัวไว้ในอุปกรณ์ลักษณะคล้าย USB

ความเหมือนระหว่างกระเป๋าเงินคริปโตกับการแลกเปลี่ยน

ทั้งสองอย่างใช้เก็บสกุลเงินดิจิทัล แต่นี่คือความเหมือนเพียงอย่างเดียว

ความแตกต่างระหว่างกระเป๋าเงินคริปโตกับการแลกเปลี่ยน

• ความหมาย: กระเป๋าเงินคือโปรแกรมเก็บคริปโต ส่วนการแลกเปลี่ยนคือบริการซื้อขายและแปลงเงิน
• การควบคุมกุญแจส่วนตัว: การแลกเปลี่ยนไม่ให้คุณควบคุมกุญแจส่วนตัวเต็มที่
• ฟีเจอร์อื่น ๆ: การแลกเปลี่ยนช่วยให้ซื้อ ขาย และเทรดได้ ไม่ใช่แค่เก็บเงิน

ควรเลือกอะไรถ้าคุณเป็นมือใหม่?

คุณสามารถเริ่มใช้งานคริปโตกับ Cryptomus ซึ่งมีทั้งกระเป๋าร้อนที่ปลอดภัยและแพลตฟอร์ม P2P ที่เชื่อถือได้ เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และผู้มีประสบการณ์

อันไหนปลอดภัยกว่าระหว่างเก็บคริปโตในกระเป๋าเงินหรือการแลกเปลี่ยน?

กระเป๋าฮาร์ดแวร์ปลอดภัยที่สุด แต่กระเป๋าซอฟต์แวร์ก็สะดวกกว่า การแลกเปลี่ยนที่เชื่อถือได้ก็เป็นตัวเลือกหากคุณไม่เก็บเงินจำนวนมาก

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าย้ายคริปโตจากการแลกเปลี่ยนไปยังกระเป๋าเงิน?

มูลค่าทรัพย์สินของคุณจะไม่เปลี่ยนแปลง

สรุป ทั้งการเก็บคริปโตในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนและในกระเป๋าเงินมีข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเลือกแบบไหน