ทำไมค่าก๊าซ (Gas Fees) ของ ETH ถึงสูง

เมื่อ Ethereum ยังคงเป็นแพลตฟอร์ม/เครือข่ายชั้นนำสำหรับ dApps และ smart contracts ผู้ใช้มักต้องเผชิญกับ “ค่าก๊าซสูง” ต้นทุนนี้ผันแปรได้มากตามความแออัดของเครือข่าย ความซับซ้อนของธุรกรรม และอุปสงค์โดยรวม

ในบทความนี้ เราจะอธิบายรายละเอียดของค่าก๊าซ วิธีคำนวณ และทิปส์เชิงปฏิบัติเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ใช้งานเครือข่าย Ethereum ได้ราบรื่นยิ่งขึ้น


Gas Fee คืออะไร?

Gas fee คือ “ค่าธรรมเนียม” ที่ผู้ใช้จ่ายเพื่อประมวลผลธุรกรรมหรือรัน smart contracts บนบล็อกเชน Ethereum ค่าธรรมเนียมนี้เป็นการชดเชยให้กับผู้ขุด/ผู้ยืนยันบล็อก (ปัจจุบันคือ validators) สำหรับทรัพยากรคอมพิวต์ที่ใช้ในการยืนยันธุรกรรม การเข้าใจ gas fees สำคัญมากเพราะมีผลต่อ “ต้นทุนรวม” ของการใช้ dApps หรือการโอนสินทรัพย์อย่าง Ether (ETH) แม้คุณจะโอน ERC-20 โทเค็นอื่น เช่น USDT ก็ยังต้องมี ETH เพื่อจ่ายค่าก๊าซ เพราะธุรกรรมใด ๆ บนเครือข่าย Ethereum ต้องชำระด้วย ETH

อย่างไรก็ตาม ค่าก๊าซสูงมักถูกยกเป็น “ข้อเสียหลัก” ของเครือข่าย Ethereum ช่วงที่อุปสงค์พุ่ง ผู้ใช้อาจเผชิญต้นทุนที่สูงมากจนการเข้าร่วม ecosystem กลายเป็นเรื่องแพง โดยเฉพาะธุรกรรมขนาดเล็กหรือผู้ใช้ที่งบจำกัด ทำให้ความเข้าถึงได้และความน่าใช้ลดลง


ปัจจัยที่ทำให้ค่าก๊าซ ETH สูง

ค่าก๊าซ ETH สูงเพราะหลายปัจจัยที่เชื่อมโยงกัน สะท้อนทั้งอุปสงค์และข้อจำกัดเชิงปฏิบัติการของเครือข่าย สาระสำคัญมีดังนี้:

  • อุปสงค์และความหนาแน่นของเครือข่าย (Network Demand & Congestion): ความนิยมของ Ethereum เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มีผู้ใช้และ dApps จำนวนมากแย่งทรัพยากรเครือข่าย เมื่ออุปสงค์มากกว่าความสามารถในการประมวลผล ผู้ใช้ต้อง “แข่งกัน” เพื่อพื้นที่ในบล็อก (block space) ทำให้ราคา gas สูงขึ้น
  • ความซับซ้อนของธุรกรรม (Transaction Complexity): ธุรกรรมแต่ละประเภทใช้คอมพิวต์ไม่เท่ากัน การโอน ETH แบบพื้นฐานใช้ gas น้อยกว่าการโต้ตอบ smart contracts ที่ซับซ้อน เมื่อ dApps ซับซ้อนเป็นที่นิยม การใช้ gas โดยรวมก็เพิ่ม และค่าธรรมเนียมสูงตาม
  • ข้อจำกัดของขนาดบล็อก (Block Gas Limit): แต่ละบล็อกมี gas limit รวม จำกัดปริมาณ gas ที่ใช้ได้ภายในบล็อกนั้น เมื่อมีธุรกรรมส่งเข้ามามากกว่าที่บล็อกรับไหว ผู้ขุด/ผู้ยืนยันจะจัดลำดับธุรกรรมที่ “ตั้งราคา gas สูงกว่า” ก่อน ทำให้ผู้ที่ตั้งราคาต่ำต้องรอนานและเผชิญค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น

Why are eth gas fees so high


ค่าก๊าซคำนวณอย่างไร?

การคำนวณค่าก๊าซบน Ethereum มีสององค์ประกอบหลัก: gas limit และ gas price ทั้งคู่ร่วมกันกำหนด “ต้นทุนรวม” ของธุรกรรม รายละเอียดมีดังนี้:

  1. Gas limit คือ “ปริมาณ gas สูงสุด” ที่ผู้ใช้ยอมจ่ายให้ธุรกรรมนั้น ๆ ขึ้นกับความซับซ้อน ธุรกรรมโอน ETH พื้นฐานมักใช้ 21,000 หน่วย ส่วนการโต้ตอบ smart contracts อาจต้องใช้ตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลายล้านหน่วย

  2. Gas price คือ “ราคาต่อหน่วย gas” ที่ผู้ใช้ยอมจ่าย วัดเป็น Gwei (หน่วยย่อยของ Ether) ราคานี้ผันแปรตามอุปสงค์/ความหนาแน่นของเครือข่าย ช่วงกิจกรรมสูง ราคาจะพุ่งเพราะการแข่งขันเข้าบล็อก

  3. สูตรคำนวณค่าก๊าซรวมของธุรกรรม:

Total Gas Fee = Gas Limit × Gas Price

ตัวอย่าง: หากตั้ง gas limit = 21,000 สำหรับการโอน ETH แบบง่าย และเลือก gas price = 100 Gwei จะได้:

Total Gas Fee = 21,000 × 100 Gwei = 2,100,000 Gwei

  1. แปลง Gwei เป็น ETH: เพราะมักแสดงค่าก๊าซเป็น Gwei ผู้ใช้อาจอยากเห็นเป็น ETH ชัด ๆ

Total Gas Fee in ETH = 2,100,000 Gwei × 0.000000001 = 0.0021 ETH

ราคาก๊าซไม่ได้ “คงที่” และเปลี่ยนแปลงรวดเร็วตามกิจกรรมเครือข่าย ผู้ใช้สามารถดูราคาแบบเรียลไทม์ผ่านเครื่องมือติดตาม gas เพื่อกำหนดราคาแข่งขันได้เหมาะสม


จะหลีกเลี่ยงค่าก๊าซสูงได้อย่างไร?

การลดค่าก๊าซมีความสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมต้นทุนทั้งขณะทำธุรกรรมและใช้งาน dApps ต่อไปนี้คือกลยุทธ์ที่ช่วยได้:

  1. เลือกเวลานอกชั่วโมงพีค: เฝ้าดูราคา gas แล้วทำธุรกรรมช่วงเครือข่ายโล่ง เช่น สุดสัปดาห์หรือดึก ๆ ตามเวลามาตรฐาน (UTC)
  2. ใช้ Layer 2 Solutions: พิจารณา Polygon, Arbitrum, หรือ Optimism ซึ่งช่วยลดต้นทุนได้อย่างมากและยังคงเข้ากันได้กับ dApps ของ Ethereum
  3. ตั้งราคา gas ให้เหมาะสม: ใช้เครื่องมือติดตาม gas เพื่อกำหนดราคา “พอแข่งขันได้” แต่ไม่จ่ายเกินจำเป็น
  4. รวมธุรกรรม (Bundle): รวมหลายการกระทำให้เป็นธุรกรรมเดียวเมื่อทำได้ เพื่อลดจำนวนครั้งที่ต้องจ่าย gas
  5. ติดตามแนวโน้มค่าก๊าซ: เฝ้าดูแนวโน้มผ่านเครื่องมือและชุมชน เพื่อคาดการณ์ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการทำธุรกรรม
  6. พิจารณาบล็อกเชนทางเลือก: หากค่าก๊าซ Ethereum ยังสูง ลองเครือข่ายอย่าง Binance Smart Chain หรือ Solana ซึ่งต้นทุนต่ำกว่า

การเข้าใจว่าทำไมค่าก๊าซ ETH ถึงสูง เป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกคนที่ใช้งานเครือข่าย Ethereum ค่าก๊าซทำหน้าที่ชดเชยงานคอมพิวต์ของผู้พิสูจน์บล็อก แต่ปัจจัยต่าง ๆ อย่างอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ความหนาแน่นของเครือข่าย และความซับซ้อนของธุรกรรม ล้วนผลักต้นทุนให้สูงขึ้น อย่างไรก็ดี ด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสม ผู้ใช้สามารถลดค่าธรรมเนียมและยกระดับประสบการณ์ใน ecosystem ของ Ethereum ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขอบคุณที่ติดตาม หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจธรรมชาติของค่าก๊าซบน Ethereum และรู้วิธีควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น!

เนื้อหานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลและการศึกษาเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือทางกฎหมาย

ให้คะแนนบทความ

โพสต์ก่อนหน้าประเภทของ Stablecoins
โพสต์ถัดไปวิธีถอน Solana เข้าบัญชีธนาคาร

หากคุณมีคำถาม กรุณาฝากข้อมูลติดต่อไว้ แล้วเราจะติดต่อกลับหาคุณ

banner

ทำให้การเดินทางสู่ Crypto ของคุณง่ายขึ้น

อยากเก็บ ส่ง รับ เดิมพัน หรือซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีใช่ไหม? Cryptomus ทำได้ทุกอย่าง — สมัครและจัดการกองทุนคริปโทเคอร์เรนซีของคุณด้วยเครื่องมืออันแสนสะดวกของเรา

เริ่มต้นใช้งาน

banner

ความคิดเห็น

0