
Market และ Limit Orders คืออะไร?
เมื่อพูดถึงการเทรดคริปโต การเลือกประเภทออร์เดอร์มีบทบาทสำคัญ เพราะมันเป็นตัวกำหนดว่าการซื้อขายของคุณจะถูกดำเนินการอย่างไรและเมื่อใด ในบทความนี้ เราจะอธิบายโดยละเอียดว่าออร์เดอร์การซื้อขายคืออะไร สำรวจประเภทหลัก ๆ และอธิบายการทำงานของแต่ละแบบ
Order Book คืออะไร?
ก่อนจะพูดถึงประเภทของออร์เดอร์ มาทำความเข้าใจก่อนว่าออร์เดอร์เหล่านี้ถูกเก็บไว้ที่ไหน Order Book คือรายชื่ออิเล็กทรอนิกส์ของออร์เดอร์ซื้อ (bids) และขาย (asks) ที่ยังคงเปิดอยู่ทั้งหมดของสินทรัพย์หนึ่ง ๆ ซึ่งถูกจัดเรียงตามราคา คุณสามารถดูปริมาณของออร์เดอร์เหล่านี้ได้ในแต่ละระดับราคา ซึ่งจะแสดงถึงความต้องการของตลาดและการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต กล่าวง่าย ๆ Order Book คือเครื่องมือทางการเงินที่บอก “อุณหภูมิ” ของตลาดแบบเรียลไทม์ ช่วยให้นักเทรดเข้าใจอุปสงค์และอุปทาน และตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น คุณสามารถเห็นความตั้งใจของผู้เข้าร่วม: ใครต้องการซื้อหรือขายสินทรัพย์ ที่ราคาเท่าไร และในปริมาณเท่าใด
คุณสามารถพบ Order Book ได้บน Cryptomus โดยถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนตามสี: asks ถูกไฮไลท์เป็นสีแดงด้านบน และ bids แสดงเป็นสีเขียวด้านล่าง คุณยังสามารถเลือกดูเฉพาะ asks หรือเฉพาะ bids ได้ตามความต้องการ

Market Order คืออะไร?
Market Order คือคำสั่งซื้อหรือขายคริปโตทันทีที่ราคาที่ดีที่สุดที่มีอยู่ หากคุณซื้อคริปโตด้วย Market Order คุณจะ “กวาด” ออร์เดอร์ขายแบบลิมิตที่ให้ราคาดีที่สุดจนกว่าคำสั่งจะเสร็จสิ้น ส่งผลให้ราคาขยับสูงขึ้น ในทางกลับกัน หากคุณขายด้วย Market Order คุณจะขายให้กับออร์เดอร์ซื้อที่มีอยู่โดยเริ่มจากราคาสูงสุดลงมา
ข้อดีหลักของ Market Order คือความสำคัญสูงสุดในการดำเนินการ คำสั่งจะถูกดำเนินการทันทีหลังจากส่ง โดยไม่ต้องรอราคาที่กำหนด ทำให้ Market Order เป็นตัวเลือกที่ดีในสถานการณ์ที่ “ความเร็ว” สำคัญกว่าราคา ตัวอย่างเช่น ในการเทรด Market Order ช่วยให้คุณเปิดหรือปิดตำแหน่งได้ทันทีโดยไม่พลาดจังหวะ
ข้อเสียคือ ราคาสุดท้ายที่ได้อาจแตกต่างจากที่คาดไว้ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดผันผวนสูงหรือเมื่อเทรดด้วยปริมาณมาก นั่นเป็นเพราะออร์เดอร์จะถูกจับคู่กับราคาที่ดีที่สุดที่มีอยู่ใน Order Book และบางครั้งสภาพคล่องอาจไม่เพียงพอ ผลลัพธ์คือ Slippage—ช่องว่างระหว่างราคาที่คาดหวังกับราคาจริงที่คำสั่งถูกดำเนินการ

Limit Order คืออะไร?
Limit Order คือคำสั่งซื้อหรือขายสินทรัพย์ที่ราคาที่ผู้เทรดกำหนด โดยราคานี้อาจสูงหรือต่ำกว่ามูลค่าตลาดปัจจุบัน เวลาซื้อ ออร์เดอร์จะเสร็จสิ้นก็ต่อเมื่อราคาลงมาถึงราคาลิมิตหรือต่ำกว่า เวลาขาย จะเสร็จสิ้นก็ต่อเมื่อราคาขึ้นไปถึงราคาลิมิตหรือสูงกว่า
ตัวเลือกนี้ช่วยให้นักเทรดควบคุมการซื้อขายได้มากขึ้น และหลีกเลี่ยงการแกว่งของราคาที่ไม่คาดคิด ไม่ว่าการจับคู่จะใช้เวลานานแค่ไหน ตัวอย่างเช่น คุณต้องการซื้อ 10 SOL ที่ราคา $130 ต่อเหรียญ แต่ราคาตลาดปัจจุบันอยู่ที่ $146—ซึ่งไม่เหมาะสำหรับคุณ ในกรณีนี้ คุณสามารถวาง Limit Order เพื่อซื้อ 10 SOL ที่ $130 ต่อเหรียญ และคำสั่งของคุณจะถูกดำเนินการทันทีที่มีผู้ขายที่ราคานั้น ถึงแม้ว่าราคาตลาดจะลงมาถึงราคาที่คุณตั้งไว้ ก็ไม่ได้หมายความว่าคำสั่งจะเสร็จสิ้นทันที เพราะอาจมีหลายคำสั่งที่ราคาเดียวกัน และระบบอาจให้ลำดับความสำคัญกับคำสั่งที่ถูกส่งมาก่อน อีกทั้งหากคุณตั้งคำสั่งซื้อด้วยปริมาณมาก ราคามาถึงเป้าหมายแล้ว คำสั่งอาจยังไม่ถูกจับคู่ทั้งหมดในทันที
Limit Order มีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อคุณคิดเชิงกลยุทธ์ มันเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการจัดการการซื้อขายขนาดใหญ่ เพราะสามารถล็อคราคาที่คุณต้องการได้ ทำให้คุณมั่นใจว่าคุณจ่ายในราคาที่กำหนดไว้ ไม่เกินกว่านั้น ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงทางการเงิน
Market Order vs. Limit Order
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เราได้เตรียมตารางเปรียบเทียบ:
| คุณสมบัติ | Market Order | Limit Order | |
|---|---|---|---|
| ความเร็วในการดำเนินการ | Market Orderดำเนินการทันทีที่ราคาที่ดีที่สุดที่มีอยู่ | Limit Orderดำเนินการได้ก็ต่อเมื่อราคาที่กำหนดถึงเป้า | |
| การควบคุมราคา | Market Orderราคาที่ได้อาจต่างจากที่คาด | Limit Orderควบคุมเต็มที่: ดำเนินการที่ราคาที่ตั้งหรือดีกว่าเท่านั้น | |
| การรับประกันการดำเนินการ | Market Orderใช่ ถ้ามีสภาพคล่องเพียงพอใน Order Book | Limit Orderไม่ใช่ คำสั่งอาจยังไม่ถูกจับคู่ | |
| ความเสี่ยง Slippage | Market Orderสูง โดยเฉพาะเมื่อสภาพคล่องต่ำ | Limit Orderน้อยที่สุด เพราะราคาถูกกำหนดตายตัว | |
| เหมาะสำหรับ | Market Orderเข้า/ออกตลาดอย่างรวดเร็วในช่วงผันผวนแรง | Limit Orderการเทรดตามแผนโดยเน้นการควบคุมราคา |
โปรดจำไว้ว่า Market Order จะขยับ Order Book เพราะถูกดำเนินการทันที ในขณะที่ Limit Order จะ “นั่งรอ” จนกว่าจะมีการจับคู่ ตัวอย่างเช่น หากเทรดเดอร์ต้องการขาย 4 SUI ด้วย Market Order และใน Order Book มีออร์เดอร์ซื้อ 2 SUI ที่ $3 และอีก 2 SUI ที่ $2.5 Market Order จะ “กิน” ทั้งสองระดับ ผลลัพธ์คือ เทรดเดอร์จะขาย 2 SUI ที่ $3 และ 2 SUI ที่ $2.5 ได้เงินรวม $11 กระบวนการนี้ทำให้ราคาขยับ เพราะ Market Order จะลบออร์เดอร์ลิมิตที่มีอยู่
ไม่สามารถบอกได้ว่า Limit หรือ Market Order ดีกว่า เพราะทั้งคู่มีจุดประสงค์ต่างกัน หากคุณยึดกลยุทธ์ที่เน้นราคาที่เฉพาะเจาะจง Limit Order จะเหมาะสม แต่หากคุณต้องซื้อหรือขายทันที—หรือปิดการเทรดโดยไม่รอ—Market Order คือทางเลือกที่ดีที่สุด
การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Market และ Limit Order จะช่วยให้คุณหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความเร็วและการควบคุมราคา
ประเภทออร์เดอร์อื่น ๆ
นอกเหนือจาก Market และ Limit Order ยังมี ประเภทขั้นสูง ที่ช่วยให้คุณควบคุมความเสี่ยงและล็อคกำไรโดยอัตโนมัติ เช่น Stop-loss, Stop-limit และ Bracket Order
Stop-loss Order
Stop-loss คือคำสั่งขายสินทรัพย์เมื่อราคาลดลงถึงหรือต่ำกว่าระดับที่กำหนด จุดประสงค์หลักคือเพื่อจำกัดการขาดทุนหากตลาดเคลื่อนไหวตรงข้ามกับตำแหน่งของคุณ เมื่อราคาถึงระดับ stop คำสั่งจะกลายเป็น Market Order และดำเนินการตามราคาปัจจุบัน วิธีนี้มีประโยชน์มากในสภาวะที่มีความผันผวนสูง
Stop-limit Order
Stop-limit คือการผสมผสานระหว่าง Stop Price และ Limit Price เมื่อราคาตลาดแตะระดับ stop ระบบจะสร้าง Limit Order ขึ้นมา แต่จะดำเนินการก็ต่อเมื่อราคาตรงตามเงื่อนไข
สมมติว่าคุณถือคริปโตและต้องการป้องกันความเสี่ยงจากการร่วงลง คุณตั้ง Stop-limit ที่ราคา stop $95 และ limit $94 เมื่อราคาลงถึง $95 ระบบจะสร้าง Limit Order ขายที่ $94 ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยง Slippage แต่ก็เสี่ยงที่จะไม่ถูกจับคู่หากราคาตกเร็วเกินไป
Bracket Order
Bracket Order คือการตั้งขั้นสูงที่รวมสามออร์เดอร์หลัก: Entry, Take-profit และ Stop-loss โดยตำแหน่งของคุณจะถูก “ครอบ” ไว้ทั้งด้านบนและด้านล่าง เพื่อกำหนดกำไรและความเสี่ยงไว้ล่วงหน้า
ประเภทออร์เดอร์เพิ่มเติม เช่น Stop-loss, Stop-limit หรือ Bracket เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์มากกว่า เพราะช่วยขยายกลยุทธ์และปกป้องกำไรโดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา
เราสามารถพูดได้ว่า Market และ Limit Order คือรากฐานของกลยุทธ์การเทรด Market Order ให้ความเร็วและความแน่นอน Limit Order ให้ความแม่นยำด้านราคาและป้องกัน Slippage สำหรับนักเทรด การใช้เครื่องมือทั้งสองร่วมกันช่วยจัดการความเสี่ยงและผลกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความนี้มีประโยชน์กับคุณหรือไม่? แสดงความคิดเห็นและติดตาม บล็อก Cryptomus เพื่อเพิ่มความรู้เรื่องคริปโต!
ให้คะแนนบทความ




ความคิดเห็น
0
คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อโพสต์ความคิดเห็น