ข้อดีข้อเสียของคริปโตเคอร์เรนซี

คริปโตเคยเป็นประเด็นถกเถียงร้อนแรงในสื่อมาหลายปี โดยเฉพาะบิทคอยน์ที่ขึ้นพาดหัวข่าวอยู่เสมอ กระทั่งการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดือนพฤศจิกายน 2024 คริปโตยังกลายเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญ แต่เบื้องหลังกระแสคืออะไร และตลาดดิจิทัลทำกำไรได้จริงหรือเปล่า? ถ้าคุณยังงงอยู่ ไม่ต้องกังวล วันนี้เราจะพาไปรู้จักข้อดี–ข้อเสียของสกุลเงินดิจิทัล เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง

พื้นฐานของคริปโตเคอร์เรนซี

เริ่มจากพื้นฐานกันก่อน คริปโตเคอร์เรนซีคือเงินดิจิทัลที่ปกป้องด้วยการเข้ารหัส (cryptography) ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องพึ่งตัวกลาง ด้วยธรรมชาติแบบกระจายศูนย์ คริปโตจึงไม่ถูกกำกับโดยหน่วยงานรัฐส่วนกลาง ทำให้ “แตะต้องยาก” ในระดับหนึ่ง

การกระจายศูนย์เกิดขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน—ห่วงโซ่ของบล็อกข้อมูลที่ทำหน้าที่เป็นสมุดบันทึกดิจิทัลของธุรกรรมทั้งหมด ข้อมูลเหล่านี้ลบหรือแก้ไขย้อนหลังไม่ได้ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญด้านความโปร่งใสและความปลอดภัยสำหรับการซื้อขาย เดี๋ยวเราจะเล่ารายละเอียดต่อไป

เสาหลักอีกด้านของคริปโตคือ “เสรีภาพในการซื้อขาย” คุณเลือกวิธีชำระเงินแบบใดก็ได้ (รวมถึงเงินเฟียต) และเลือกแพลตฟอร์มที่ฟังก์ชันและนโยบายเหมาะกับคุณ และยังไม่หมดเท่านี้ ตลาดคริปโตต่างจากตลาดดั้งเดิมตรงที่มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่ยืดหยุ่นและเป็นมิตรกว่า รอติดตามรายการข้อดีเต็มๆ ของสินทรัพย์ดิจิทัลได้เลย

ข้อดีของคริปโตเคอร์เรนซี

ไปส่วนที่น่าสนใจกันต่อ! เราจะตอบคำถามหลักว่า อะไรคือเสน่ห์ของคริปโต และทำไมถึงอยู่ในสปอตไลต์มาตลอด 15 ปีที่ผ่านมา เรารวบรวมข้อดีที่แม้มือใหม่ก็เข้าใจได้มาฝาก ทีละข้อดังนี้

ข้อดีที่ 1: ต่อกรเงินเฟ้อ

ไม่ใช่มุก—โลก DeFi ช่วย “สู้เงินเฟ้อ” ได้ เพราะสินทรัพย์ดิจิทัลส่วนใหญ่ไม่ได้ผูกกับสกุลเงินหรือระบบเศรษฐกิจใดเป็นการเฉพาะ ราคาของมันสะท้อนอุปสงค์ระดับโลก ในขณะที่เงินเฟ้อผูกกับประเทศหนึ่งๆ ในฐานะนักลงทุน คุณจึงอุ่นใจได้มากขึ้นว่าเงินออมจะไม่ถูกกัดกร่อนตามเวลา แถมอาจเพิ่มมูลค่าได้ด้วย นักพัฒนาบางเหรียญตั้ง “เพดานอุปทานรวม” ทำให้โทเค็นหายากขึ้นและราคามีแรงหนุน

อย่างที่รู้กัน บิทคอยน์ ยังเป็นที่ถกเถียงเรื่องศักยภาพการเติบโต หลายคนสงสัยว่า BTC จะขึ้นต่อหรือไม่ ปัจจุบันมีบิทคอยน์หมุนเวียนราว 19.5 ล้านเหรียญ จากอุปทานรวมที่ถูกล็อกไว้ที่ 21 ล้าน นี่เป็นการออกแบบให้ “ขาดแคลน” ตั้งแต่ต้น ทั้งหมดจะถูกขุดครบโดยประมาณปี 2140 เมื่ออุปทานตึงตัว มูลค่าต่อเหรียญย่อมมีโอกาสสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อการขุดบิทคอยน์ใช้พลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ การผนวก “อุปทานคงที่” กับ “ความยากในการขุดที่เพิ่มขึ้น” ทำให้บิทคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่โดดเด่นด้านมูลค่าในระยะยาว

ข้อดีที่ 2: ความเสี่ยงสูง—โอกาสผลตอบแทนสูง

เสี่ยงมากก็ได้มาก—สำนวนนี้ยังใช้ได้ดี ทุกวันนี้มีคริปโตมากกว่า 10,000 เหรียญ ซึ่งแต่ละเหรียญมีโปรไฟล์ความผันผวนต่างกัน แต่นี่แหละคือพื้นที่ที่นักลงทุนสามารถทำกำไรได้มาก หากจับจังหวะได้ดี ตัวอย่างเช่น โทเค็นของ Polygon พุ่งแรงในปี 2021 จากราคาเพียง $0.018 เมื่อต้นปี ทะยานทำ ATH ที่ $2.92 ในเดือนธันวาคม ให้ผลตอบแทนกว่า 16,000% แก่นักลงทุนกลุ่มแรกๆ

ยิ่งคุณเข้าใจกลไกการทำงานของคริปโตมากเท่าไร โอกาสทำกำไรก็ยิ่งมาก และคาดการณ์ความสำเร็จของโปรเจกต์ได้ดีขึ้น สิ่งสำคัญคือ “เล่นอย่างมีวินัย” หากไม่ชอบความเสี่ยงสูง ยังมีทางเลือกคือ staking การนำสินทรัพย์ไปล็อกไว้ช่วงเวลาหนึ่งเพื่อรับผลตอบแทน คล้ายเงินฝากธนาคารที่ได้ดอกเบี้ย แม้ staking จะไม่ไร้ความเสี่ยง แต่ก็เป็นทางเลือกที่มีแนวโน้มช่วยงอกเงินได้

ข้อดีที่ 3: ธรรมชาติแบบกระจายศูนย์

กลับมาที่แกนหลักของคริปโต—การกระจายศูนย์ สำหรับหลายคน นี่คือเหตุผลสำคัญในการเลือกตลาดคริปโตเหนือระบบเดิม คริปโตในฐานะ “วิธีชำระเงิน” หมายถึง ไม่มีธนาคารใดควบคุมสินทรัพย์ และไม่มีหน่วยงานรัฐกำหนดมูลค่าหรือปริมาณหมุนเวียนของเงินดิจิทัล คุณตัดสินใจอนาคตของเงินคุณเอง

ดังที่กล่าวไป การกระจายศูนย์เกิดจากบล็อกเชน—ฐานข้อมูลอิสระที่ติดตามทุกธุรกรรม ไม่ผูกกับคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง ทำให้แฮ็กเกอร์เจาะสายโซ่ข้อมูลที่ปลอดภัยนี้ได้ยากมาก คริปโตจึงเสนอ “โมเดลเงินแบบกระจายศูนย์” ช่วยลดการผูกขาดและปลดปล่อยเงินจากการควบคุม หากใช้มาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม เช่น ใช้กระเป๋าคริปโตที่ปลอดภัย และเปิดใช้ยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) คริปโตก็ “ปลอดภัยได้” อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงยังมีทั้งความผันผวนของตลาด การถูกแฮ็ก และความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ

ข้อเสียของคริปโตเคอร์เรนซี

เมื่อเห็นข้อดีกันแล้ว มาดูข้อควรระวังกันต่อ จริงๆ แล้วหัวข้อต่อไปนี้เปรียบเสมือน “ทิปส์” ที่ช่วยให้คุณเลี่ยงการขาดทุนและการถูกโจมตีโดยแฮ็กเกอร์ในช่วงเริ่มต้นเส้นทางลงทุนคริปโต

ข้อเสียที่ 1: มือใหม่เปราะบางต่อความเสี่ยง

แม้คริปโตจะเป็นหนึ่งในโซลูชันการเงินที่ปลอดภัยในปัจจุบัน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ เช่น เจ้าของบางรายทำ “คีย์ส่วนตัว” ของกระเป๋าคริปโตหาย ทำให้สูญสินทรัพย์ หรือเลือกผู้ให้บริการที่ไม่น่าเชื่อถือจนกระเป๋าถูกแฮ็ก/โดนโจมตีไซเบอร์

เราขอแนะนำให้มือใหม่ใช้ “กระเป๋าแบบ custodial” ซึ่งหากลืมรหัสผ่านยังสามารถขอทีมซัพพอร์ตช่วยกู้คืนการเข้าถึงได้ ตัวอย่างเช่น กระเป๋าคริปโต Cryptomus อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย มือใหม่ก็จับทางได้ไม่ยาก และหากมีคำถาม ทีมซัพพอร์ตพร้อมช่วยเสมอ

ข้อเสียที่ 2: ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ

ตลาดคริปโตยังขาดกรอบกำกับดูแลจากรัฐ ซึ่ง “ช่องว่าง” นี้ก็อาจเป็นข้อเสีย เพราะไม่มีระเบียบข้อบังคับชัดเจนในการระงับข้อพิพาท ทำให้นักลงทุนขาดการคุ้มครองหากเงินออมถูกขโมยหรือบัญชีถูกแฮ็ก อีกด้านหนึ่ง การแทรกแซงของรัฐก็อาจก่อผลลบ เช่น กรณีรัฐบาลจีนสั่งแบนการขุดและการหมุนเวียนคริปโตในประเทศ ทำให้ราคาดิ่งแรงและนักลงทุนขาดทุนรวมกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์

ข้อเสียที่ 3: ความผันผวนของตลาด

สำหรับมือใหม่ นี่อาจเป็น “กับดักใหญ่” ราคาคริปโตสามารถพุ่งสูงเวอร์และร่วงแรงได้ ตลาดพึ่งพาการเก็งกำไรมาก จึงอ่อนไหวต่อแรงเหวี่ยงราคาและกระทบมูลค่าเหรียญได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะ “อ่าน” ตลาดจากเหตุการณ์มหภาคหรือโมเมนต์สำคัญในโลกคริปโตได้ เช่น การ halving หรือวัฏจักรตลาดกระทิง/หมี ซึ่งล้วนทิ้งรอยไว้กับความผันผวน

ตัวอย่างเช่น ช่วงเทขาย (sell-off) ราคาหลายเหรียญอาจร่วงแรง ดังเช่นกรณีของ Cardano ในวันที่ 16–17 มีนาคม 2024 ที่ราคา ADA ดิ่ง 10.19% ภายในวันเดียว

สรุป

เราได้ไล่ดูข้อดี–ข้อเสียของคริปโตกันแล้ว โดยสรุป “ข้อดี” ได้แก่ ค่าธรรมเนียมถูกกว่าและธุรกรรมเร็วกว่า อีกทั้งระบบกระจายศูนย์ที่โปร่งใสและปลอดภัย ขณะที่ “ข้อเสีย” ได้แก่ ความผันผวนสูง การใช้พลังงานมากในการขุด และความเสี่ยงถูกแฮ็ก อย่างไรก็ดีไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก คริปโตสามารถเป็นการลงทุนที่ยอดเยี่ยมในมือของคนที่ “มีทักษะ” เมื่อคุณเข้าใจพื้นฐานการวิเคราะห์การเงิน และรู้วิธีสร้างพอร์ตที่กระจายความเสี่ยงดี ดังนั้น หลังอ่านบทความนี้ ทุกคนย่อมสร้างมุมมองของตนเองต่อ “คริปโตเคอร์เรนซี” ได้ชัดขึ้น

ควรลงทุนในคริปโตไหม?

สำหรับมือใหม่ การลงทุนในคริปโตอาจเหมือนเดินในทุ่งกับระเบิด—มีทั้งศัพท์เฉพาะ สแลง และกลยุทธ์ ที่ไม่คุ้น แต่ทุกคนต้องผ่านเส้นโค้งการเรียนรู้นี้ เมื่อมีประสบการณ์ คุณจะจับจังหวะได้ดีและ “คล่องเหมือนปลาลงน้ำ”—และ Cryptomus ก็พร้อมช่วยคุณระหว่างทาง

หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์และให้ข้อมูลที่คุณต้องการ แล้วคุณล่ะคิดว่า “ข้อดี” หรือ “ข้อเสีย” ของคริปโตมีมากกว่ากัน? บอกเราในคอมเมนต์ได้เลย!