วิธีการและสถานที่ชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัล

คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrencies) มักถูกมองว่าเป็นหนึ่งในวิธีการลงทุน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันถูกสร้างขึ้นมาในตอนแรกเพื่อใช้ในการชำระเงินแบบไม่เปิดเผยตัวตน (anonymous payments) ปัจจุบันมีผู้คนจำนวนมากขึ้นเริ่มใช้คริปโตเพื่อการซื้อของในชีวิตประจำวัน ไม่ได้ใช้แค่เพื่อการลงทุนเท่านั้น หลายบริษัทและหลายบริการก็เริ่มยอมรับคริปโตเป็นช่องทางการจ่ายเงินแล้วเช่นกัน บทความนี้จะอธิบายอย่างง่ายว่าการชำระเงินด้วยคริปโตทำงานอย่างไร และคุณสามารถใช้จ่ายสินทรัพย์ของคุณได้ที่ไหนบ้าง

การชำระเงินด้วยคริปโทเคอร์เรนซีทำงานอย่างไร?

หากต้องการจ่ายเงินด้วยคริปโต สิ่งแรกที่คุณต้องมีคือ 2 อย่าง: กระเป๋าเงินคริปโต (crypto wallet) และยอดเงินในกระเป๋าที่เพียงพอ

กระเป๋าเงินคริปโตของคุณก็เหมือนกระเป๋าเงินจริง ๆ เพียงแต่เก็บเงินในรูปแบบดิจิทัล นอกจากนี้ยังสามารถเปรียบได้กับแอปธนาคาร ที่คุณเห็นยอดเงินในบัญชีและจัดการเงินของคุณได้ เมื่อกระเป๋าเงินคริปโตพร้อมแล้ว การจ่ายเงินจะง่ายมาก: คุณเพียงแค่ส่งจำนวนเงินที่ถูกต้องไปยังที่อยู่กระเป๋าเงินของผู้ขาย

การชำระเงินส่วนใหญ่มักทำผ่าน Bitcoin (BTC) หรือเหรียญ Stablecoin (เช่น USDT หรือ USDC) เหรียญเหล่านี้ได้รับความนิยมเพราะมูลค่าค่อนข้างคงที่และผูกกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หากคุณถือคริปโตประเภทอื่นอยู่ คุณสามารถใช้เครื่องมือแปลงเหรียญ (converter) ซึ่งมักมีอยู่ในแอปกระเป๋าเงินหรือในแพลตฟอร์มเทรด เพื่อสลับไปเป็น Stablecoin หรือคริปโตอื่นได้อย่างรวดเร็วก่อนชำระเงิน

คำเตือน!

ความแตกต่างสำคัญของคริปโต คือมี ค่าธรรมเนียมเครือข่าย (network fee) (บนบางเครือข่ายเรียกว่า “gas”) แบบ “บังคับ” ค่าธรรมเนียมนี้ถูกเรียกเก็บโดยตัวเครือข่ายเอง เพื่อใช้ประมวลผลและปกป้องความปลอดภัยของธุรกรรมของคุณ และ ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกหักออกจากจำนวนเหรียญที่คุณส่งโดยตรงเสมอ.

หากคุณจ่ายแบบ P2P (peer-to-peer) ควรตกลงกันล่วงหน้าว่าราคา “รวมค่าธรรมเนียมแล้วหรือยัง” ถ้าคุณซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ จำนวนเงินในบิลมักจะรวมค่าธรรมเนียมไว้แล้ว

หากฝั่งคุณเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าธรรมเนียม คุณต้องรวมค่าธรรมเนียมนี้เข้าไปในยอดชำระทั้งหมดด้วย ตัวอย่างเช่น หากร้านค้าต้องการรับ 1.0 Ethereum (ETH) เต็ม ๆ สำหรับสินค้าชิ้นหนึ่ง และค่าธรรมเนียมเครือข่ายคือ 0.01 ETH คุณจะต้องส่ง 1.01 ETH ทั้งหมด หากคุณส่งเพียง 1.0 ETH ผู้ขายจะได้รับแค่ 0.99 ETH เพราะ 0.01 ETH ถูกหักเป็นค่าธรรมเนียมจากจำนวนที่คุณส่งไปเสมอ ดังนั้นก่อนยืนยันธุรกรรมทุกครั้งควรตรวจสอบค่าธรรมเนียมเครือข่ายและบวกเพิ่มเข้าไปในราคาให้เรียบร้อย


How And Where To Pay With Bitcoin & Other Crypto

วิธีการชำระเงินด้วยคริปโตที่หลากหลาย

หลัก ๆ แล้วการชำระเงินด้วย Bitcoin และคริปโตอื่น ๆ มี 4 รูปแบบ: การโอนโดยตรง, การจ่ายผ่านหน้าตะกร้าชำระเงิน (checkout), บัตรเดบิตคริปโต และบัตรของขวัญ (gift card)

1. การโอนโดยตรง (Direct transfers): เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด คุณโอนคริปโตจากกระเป๋าเงินของคุณไปยังกระเป๋าเงินของผู้รับโดยตรง วิธีนี้เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่มีออเดอร์ไม่มาก การรับบริจาค และการชำระเงินระหว่างบุคคลต่อบุคคล

2. การจ่ายผ่าน Checkout: คุณสามารถจ่ายค่าสินค้าบนเว็บไซต์ได้ หากร้านค้านั้นติดตั้งระบบรับชำระเงินด้วยคริปโต (payment gateway) ไว้แล้ว ในหน้าชำระเงินคุณจะเห็นตัวเลือกรับชำระด้วยคริปโต ระบบจะสร้าง QR code หรือที่อยู่กระเป๋าเงินให้คุณโอนเงินเข้าไป

3. บัตรเดบิตคริปโต (Crypto debit cards): บัตรประเภทนี้ให้คุณใช้ยอดเงินคริปโตในลักษณะคล้ายบัตร Visa หรือ Mastercard ปกติ ทุกครั้งที่คุณจ่าย ระบบผู้ออกบัตรจะทำการแปลงคริปโตของคุณเป็นเงินเฟียต (เช่น ดอลลาร์หรือยูโร) แบบอัตโนมัติและส่งต่อให้ร้านค้า สำคัญ: บัตรเหล่านี้ต้องเชื่อมกับบัญชีคริปโตหรือกระเป๋าเงินที่มีเงินอยู่จริง ๆ หากไม่มีเงินในบัญชี บัตรจะไม่สามารถใช้งานได้

4. บัตรของขวัญ (Gift cards): ร้านค้าขนาดใหญ่หลายแห่งยังไม่รับคริปโตโดยตรง คุณสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยการใช้คริปโตซื้อบัตรของขวัญผ่านบริการเฉพาะทาง จากนั้นคุณสามารถใช้บัตรของขวัญนี้เหมือนบัตรปกติในการซื้อสินค้าหรือบริการที่ร้านค้านั้นรองรับ

คู่มือวิธีการจ่ายเงินด้วยคริปโทเคอร์เรนซีในแต่ละรูปแบบ

อย่างที่เห็น มีหลายวิธีในการใช้ Bitcoin และคริปโตอื่น ๆ เพื่อจ่ายเงิน ลองมาดูรายละเอียดเชิงลึกของแต่ละวิธี และขั้นตอนการใช้งานแบบทีละขั้นเพื่อให้เข้าใจง่าย

Direct Transfers (การโอนโดยตรง)

วิธีนี้คือการส่งเงินจากกระเป๋าเงินคริปโตของคุณไปยังของผู้รับโดยตรง ขั้นตอนมีดังนี้:

  • ขั้นตอนที่ 1: ขอ ที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโต หรือ QR code จากผู้รับ

  • ขั้นตอนที่ 2: เข้าสู่ระบบกระเป๋าเงินหรือแอปเทรดของคุณ แล้วไปที่หน้าการโอน (transfers)

  • ขั้นตอนที่ 3: วาง (paste) ที่อยู่กระเป๋าเงินของผู้รับลงในช่องที่กำหนด

  • ขั้นตอนที่ 4: ระบุจำนวนคริปโตที่ต้องการส่งและเลือกเครือข่าย โดยคำนึงถึงค่าคอมมิชชั่น/ค่าธรรมเนียมที่แพลตฟอร์มเรียกเก็บ

  • ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอีกครั้งและยืนยันธุรกรรม ทั้งคุณและผู้รับจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อโอนสำเร็จ นอกจากนี้คุณยังสามารถติดตามธุรกรรมผ่าน Blockchain explorer ได้ด้วยการใช้ Transaction hash

Checkouts (การจ่ายผ่านหน้าชำระเงินของร้านค้าออนไลน์)

คุณยังสามารถจ่ายค่าสินค้าผ่านหน้า Checkout ของร้านค้าออนไลน์บางแห่งที่ได้ติดตั้งระบบรับชำระด้วยคริปโต (cryptocurrency payment gateway) แล้ว อย่าลืมว่ามีหลายบริษัทที่ยังไม่รับคริปโตเป็นวิธีจ่ายเงิน เราจะยกตัวอย่างบริษัทที่เป็นมิตรกับคริปโตในช่วงท้ายของบทความนี้

ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อให้การจ่ายผ่าน Checkout เป็นไปอย่างถูกต้อง:

  • ขั้นตอนที่ 1: หลังจากเลือกสินค้าลงตะกร้าเรียบร้อย ให้ไปที่หน้าชำระเงิน (checkout)

  • ขั้นตอนที่ 2: กรอกข้อมูลการจัดส่งและเลือก “คริปโทเคอร์เรนซี” เป็นวิธีการชำระเงิน จากนั้นคลิกเลือกเหรียญที่คุณต้องการใช้จ่าย (เช่น Bitcoin)

  • ขั้นตอนที่ 3: แพลตฟอร์มจะสร้างที่อยู่กระเป๋าเงินสำหรับชำระเงินหรือให้ QR code กับคุณ ให้บันทึกข้อมูลนี้ไว้

  • ขั้นตอนที่ 4: เข้าสู่ระบบกระเป๋าเงินคริปโตของคุณ ไปที่หน้าการโอน

  • ขั้นตอนที่ 5: ใส่ที่อยู่กระเป๋าเงินที่ร้านค้าให้มาในช่องที่กำหนด และระบุจำนวนคริปโตที่ต้องการโอน

  • ขั้นตอนที่ 6: ตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งและยืนยันธุรกรรม จากนั้นรอให้ร้านค้ายืนยันการได้รับเงิน

จะเห็นว่าวิธีนี้มีขั้นตอนคล้ายกับการโอนโดยตรง แตกต่างกันที่มีแพลตฟอร์มชำระเงิน (เช่น crypto payment gateway) เข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มเติม

Crypto Debit Card (บัตรเดบิตคริปโต)

หากคุณยังไม่มี บัตรเดบิตคริปโต (crypto debit card) คุณสามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้:

  • ขั้นตอนที่ 1: สร้างบัญชีบนแพลตฟอร์มคริปโตที่คุณเลือก จากนั้นผ่านกระบวนการ KYC และตั้งค่า 2FA

  • ขั้นตอนที่ 2: ในหน้าบัญชีของคุณ ให้ไปที่ส่วนของ “บัตร” แล้วกดปุ่ม “Issue card” หรือ “Add” เมื่อบัตรถูกออกแล้วก็พร้อมใช้งาน

  • ขั้นตอนที่ 3: เติมเงินเข้าบัตรโดยโอนจากกระเป๋าเงินคริปโตที่คุณมีอยู่ หรือซื้อคริปโตบนแพลตฟอร์มเทรดแล้วโอนเข้าบัตร คุณอาจเลือกเชื่อมกระเป๋าเงินของคุณเข้ากับบัตร เพื่อให้ตัดเงินจากกระเป๋าโดยอัตโนมัติเมื่อมีการจ่าย

  • ขั้นตอนที่ 4: ใช้บัตรจ่ายเงินแบบออฟไลน์ผ่าน Apple Pay หรือ Google Pay หรือใช้จ่ายออนไลน์โดยกรอกรายละเอียดบัตร

  • ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบยอดเงินคงเหลือในบัตรอยู่เสมอ และเติมเงินเมื่อจำเป็น

Gift Card (บัตรของขวัญ)

การใช้คริปโตจ่ายผ่านบัตรของขวัญคือการ “ใช้คริปโตซื้อบัตรของขวัญก่อน” แล้วค่อยนำบัตรนั้นไปใช้จ่าย เรามาดูขั้นตอนละเอียดยิบดังนี้:

  • ขั้นตอนที่ 1: เลือกแพลตฟอร์มที่ให้บริการซื้อบัตรของขวัญด้วยคริปโต (เช่น eGifter)

  • ขั้นตอนที่ 2: สร้างบัญชีบนแพลตฟอร์มที่เลือก และยืนยันอีเมลของคุณ

  • ขั้นตอนที่ 3: ดูรายชื่อร้านค้าและบริษัทที่มีบัตรของขวัญแบบจ่ายด้วยคริปโต แล้วเลือกใบที่คุณต้องการซื้อ

  • ขั้นตอนที่ 4: ไปที่หน้าชำระเงิน (checkout) คัดลอกที่อยู่กระเป๋าเงินที่แพลตฟอร์มให้มา

  • ขั้นตอนที่ 5: ไปที่กระเป๋าเงินของคุณและเปิดหน้าการโอน จากนั้นวางที่อยู่ผู้รับ ระบุประเภทคริปโต และจำนวนเงินที่ต้องการส่ง แล้วกดยืนยันธุรกรรม

  • ขั้นตอนที่ 6: ตรวจสอบกล่องอีเมลของคุณ แพลตฟอร์มจะส่งรหัสบัตรของขวัญมาให้

  • ขั้นตอนที่ 7: ใช้บัตรของขวัญในร้านค้าหรือออนไลน์ โดยการแสดงรหัสให้พนักงาน หรือกรอกรหัสในขั้นตอน Checkout

ข้อดีและข้อเสียของการจ่ายเงินด้วยคริปโทเคอร์เรนซี

ก่อนที่จะเริ่มใช้คริปโตเพื่อการชำระเงิน การรู้ทั้งข้อดีและข้อจำกัดจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น

ข้อดี (Pros)ข้อเสีย (Cons)
เข้าถึงได้ทั่วโลก (Global reach). คุณสามารถส่งคริปโตไปที่ใดก็ได้ในโลก โดยไม่ต้องเจอกับข้อจำกัดของธนาคารหรือเวลารอที่ยาวนานข้อเสีย (Cons)การยอมรับยังจำกัด (Limited acceptance). จำนวนร้านค้าหรือบริการที่รับคริปโตยังน้อยเมื่อเทียบกับบัตรเครดิตหรือเงินสด
ธุรกรรมรวดเร็ว (Fast transactions). การโอนมักใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีถึงไม่กี่นาที เร็วกว่าการโอนผ่านธนาคารแบบดั้งเดิมมากข้อเสีย (Cons)ธุรกรรมย้อนกลับไม่ได้ (Irreversibility). เมื่อธุรกรรมถูกส่งและคอนเฟิร์มแล้ว คุณไม่สามารถยกเลิกหรือขอเงินคืนได้ หากใส่ที่อยู่ผิดหรือจำนวนผิด
ค่าธรรมเนียมต่ำ (Low fees). การชำระเงินด้วยคริปโตบางเครือข่ายมีค่าธรรมเนียมต่ำมาก เริ่มตั้งแต่เศษเสี้ยวของเซนต์ข้อเสีย (Cons)ความผันผวนของราคา (Volatility). มูลค่าของคริปโตเปลี่ยนแปลงได้ทุกวินาที เงินที่คุณส่งอาจมีมูลค่าลดลงเมื่อถึงผู้ขาย การใช้ Stablecoin จะช่วยลดปัญหานี้
ความปลอดภัยสูง (Security). ระบบ Blockchain มีความโปร่งใสและปลอดภัย ธุรกรรมได้รับการปกป้องด้วยการเข้ารหัสที่แข็งแรงข้อเสีย (Cons)ต้องมีความรู้ด้านเทคนิค (Technical knowledge). ผู้ใช้ใหม่ต้องเรียนรู้เรื่องกระเป๋าเงิน, key, network fee ซึ่งอาจซับซ้อนสำหรับ ผู้เริ่มต้น (beginners)

ที่ไหนบ้างที่รับคริปโตเป็นวิธีการชำระเงิน?

การยอมรับคริปโตมักสูงในกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว เสรีภาพทางดิจิทัล และการชำระเงินข้ามประเทศที่รวดเร็ว ปัจจุบันมีสถานที่ลักษณะนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งร้านค้าปลีก ซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดัง และบริการออนไลน์ต่าง ๆ

1. บริการด้านความเป็นส่วนตัวและดิจิทัล (VPN และ Hosting): บริษัทที่ให้บริการด้านความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ มักรับคริปโตเพื่อให้เข้ากับความต้องการเรื่องการไม่เปิดเผยตัวตนทางการเงินของลูกค้า

  • ผู้ให้บริการ VPN: บริการอย่าง ExpressVPN, NordVPN และ Mullvad รับ Bitcoin และคริปโตอื่น ๆ เพื่อให้การชำระเงินของผู้ใช้เป็นส่วนตัวมากขึ้น ตัวอย่างเช่น Mullvad เป็นที่นิยมเพราะรับ Monero ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับความเป็นส่วนตัวสูง

  • บริการ Web hosting: บริษัทอย่าง MonoVM และ is* hosting ใช้การชำระด้วยคริปโตเพื่อให้ลูกค้าได้ช่องทางการจ่ายเงินที่ต่อต้านการเซ็นเซอร์ ช่วยให้เว็บไซต์ของลูกค้าสามารถออนไลน์อยู่ได้อย่างต่อเนื่อง

2. E-commerce (ร้านค้าออนไลน์): ร้านค้าออนไลน์จำนวนมากใช้ระบบจ่ายเงินแบบปลั๊กอิน (plugin) เพื่อรองรับคริปโตโดยตรงที่หน้า Checkout วิธีนี้ช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกสามารถจ่ายเงินได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างของผู้ใช้ยุคแรก ๆ ได้แก่ Overstock, Etsy และ Newegg แพลตฟอร์ม E-commerce รายใหญ่ เช่น Shopify ก็เปิดให้ผู้ขายสามารถเพิ่มตัวเลือกจ่ายด้วยคริปโตได้อย่างง่ายดาย

3. Retail (ค้าปลีก): ร้านค้าขนาดใหญ่และผู้ค้าปลีกดิจิทัลรายสำคัญอย่าง Microsoft, Dell, Walmart และรายอื่น ๆ ก็รองรับการจ่ายด้วยคริปโทเคอร์เรนซีเช่นกัน

4. Travel (การท่องเที่ยว): การจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และแพ็กเกจท่องเที่ยวด้วยคริปโตมีข้อดีหลายอย่าง โดยเฉพาะสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศ ด้วยความเร็วในการประมวลผลและธรรมชาติที่ไร้พรมแดนของคริปโต ทำให้การยืนยันการจองทำได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการโอนเงินระหว่างประเทศแบบเดิม บริษัทอย่าง Travala และ Expedia เป็นหนึ่งในผู้ใช้คริปโตยุคแรก ๆ ในวงการนี้

5. Luxury (สินค้าหรูหรา): การซื้อสินค้าราคาแพง เช่น รถยนต์หรู หรือสินค้าแบรนด์ลักซ์ชัวรี สามารถได้รับประโยชน์อย่างมากจากการใช้คริปโต เพราะค่าธรรมเนียมเครือข่ายมักเป็นจำนวนคงที่และค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับค่าธรรมเนียมเป็นเปอร์เซ็นต์ของธนาคารสำหรับการโอนเงินจำนวนมาก Tesla เคยรับ Bitcoin ในการซื้อรถยนต์ เช่นเดียวกับผู้ขายสินค้าหรูหราอย่าง Hublot และ BitDials

รายการด้านบนยังไม่ใช่รายชื่อบริษัททั้งหมดที่รับคริปโตเป็นช่องทางการชำระเงิน จำนวนองค์กรที่เปิดรับคริปโตเพิ่มมากขึ้นทุกวัน คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าต่าง ๆ ที่สามารถซื้อได้ด้วยคริปโตใน บทความนี

การจ่ายเงินด้วยคริปโตเริ่มง่ายขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยโซลูชันอย่างบัตรจ่ายเงินและบัตรของขวัญ ซึ่งทำหน้าที่เชื่อมช่องว่างระหว่างสกุลเงินดิจิทัลกับร้านค้าแบบดั้งเดิม แม้จะมีรายละเอียดสำคัญที่ต้องระวัง เช่น ค่าธรรมเนียมเครือข่าย และการที่ธุรกรรมย้อนกลับไม่ได้ แต่ด้วยความเร็ว ความปลอดภัย และการเข้าถึงในระดับโลก คริปโทเคอร์เรนซีจึงเป็นทางเลือกที่ทรงพลังแทนเงินแบบดั้งเดิม

หากคุณยังมีคำถามเพิ่มเติม คุณสามารถดูส่วน FAQ ด้านล่าง หรือฝากคำถามไว้ในคอมเมนต์ได้

FAQ

คุณสามารถซื้ออะไรได้บ้างด้วย Bitcoin?

คริปโทเคอร์เรนซีช่วยให้คุณสามารถซื้อสินค้าและบริการได้หลากหลาย รวมถึงบริการ VPN และผู้ให้บริการ Hosting บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ (เช่น Microsoft และ Dell) แพลตฟอร์ม E-commerce (เช่น Overstock, Etsy) บริษัทท่องเที่ยว (เช่น Travala) และสินค้าหรูหรา (รวมถึงรถยนต์ Tesla)

การจ่ายเงินด้วย Bitcoin ปลอดภัยหรือไม่?

ปลอดภัยครับ/ค่ะ การจ่ายเงินด้วย Bitcoin ถือว่ามีความปลอดภัยสูง เพราะ Bitcoin ทำงานบนเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งใช้การเข้ารหัสขั้นสูงเพื่อทำให้ธุรกรรมทุกครั้งมีความปลอดภัย ถาวร และตรวจสอบได้แบบสาธารณะ หลาย ๆ กระเป๋าเงินและแพลตฟอร์มเทรด ยังให้คุณเปิดใช้งานระบบป้องกันเพิ่มเติม เช่น การยืนยันตัวตนสองขั้นตอน (Two-factor authentication / 2FA) เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์ของคุณ

อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยในทางปฏิบัติขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองด้วย คุณต้องระมัดระวังและตรวจสอบที่อยู่ผู้รับ รวมถึงเครือข่ายที่ถูกต้องทุกครั้งก่อนกดส่งเงิน

ฉันสามารถจ่ายบิลต่าง ๆ ด้วยคริปโตได้ไหม?

โดยทั่วไปแล้ว คุณไม่สามารถจ่ายบิลมาตรฐาน (เช่น ค่าเช่าห้อง หรือค่าไฟ) ด้วยคริปโตได้โดยตรง เพราะบริษัทสาธารณูปโภคส่วนใหญ่ยังรับเฉพาะเงินเฟียตแบบดั้งเดิม แต่คุณสามารถจ่ายบิลทางอ้อมด้วย 2 วิธีนี้:

1. บัตรเดบิตคริปโต (Crypto debit cards): ใช้บัตรเดบิตคริปโตของคุณจ่ายบิลออนไลน์เหมือนกับบัตรเดบิตปกติ ผู้ออกบัตรจะทำการแปลงคริปโตของคุณเป็นเงินเฟียตแบบอัตโนมัติในการชำระเงิน

2. บริการเฉพาะทาง (Specialized services): คุณสามารถใช้บริการจากบริษัทตัวกลางที่รับคริปโตจากคุณ แล้วพวกเขาจะส่งเงินเฟียตให้กับผู้รับบิล (เช่น บริษัทไฟฟ้า หรือเจ้าของห้องเช่า) แทนคุณ

เนื้อหานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลและการศึกษาเท่านั้น และไม่ถือเป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือทางกฎหมาย

ให้คะแนนบทความ

โพสต์ก่อนหน้าHow To Mine Shiba Inu
โพสต์ถัดไปวิธีซื้อ Bitcoin ด้วย UnionPay

หากคุณมีคำถาม กรุณาฝากข้อมูลติดต่อไว้ แล้วเราจะติดต่อกลับหาคุณ

banner

ทำให้การเดินทางสู่ Crypto ของคุณง่ายขึ้น

อยากเก็บ ส่ง รับ เดิมพัน หรือซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีใช่ไหม? Cryptomus ทำได้ทุกอย่าง — สมัครและจัดการกองทุนคริปโทเคอร์เรนซีของคุณด้วยเครื่องมืออันแสนสะดวกของเรา

เริ่มต้นใช้งาน

banner

ความคิดเห็น

0